สังขละบุรี-สะพานมอญ Sangklaburi (รีวิวภาพทริป)

ฤดูฝนไปเที่ยวไหนดี ผมได้มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวจังหวัดเมืองกาญจนบุรีมาครับ เลยเก็บภาพ และข้อมูลเล็กๆน้อยๆ ที่กิน ที่เที่ยว และ ที่พัก มาฝากเหมือนเคย กับ #ทริปสังขละบุรี-Sangklaburi






ทริปนี้ผมเดินทางมาเที่ยวกับเพื่อนๆกลุ่ม Off Road ที่น้ำตกผาสวรรค์ ถึงเวลาเดินทางกลับผมก็ขอแยกตัวเดินทางไปเที่ยวต่อ ไหนๆมาโซนนี้แล้วทั้งที ก็เลยเอาให้คุ้มหน่อย #เติมแก๊สให้เต็มถังแล้วก็เดินทางกันต่อเลย

พิกัดปั้มแก๊ส ทองผาภูมิ https://www.google.co.th/maps/dir//14.7326241,98.6525704/@14.7325181,98.6526843,18.29z





จาก อ.ทองผาภูมิ ก็เดินทางไป อ.สังขละบุรี กันต่อเลยครับ ช่วงแรกที่เดินทาง ฟ้ายังสว่าง มีทางสวยๆให้เก็บภาพ




พอเริ่มเข้าใกล้อำเภอสังขละบุรี ฝนก็เริ่มกระหน่ำเลยครับ





ใช้เวลาไม่นานประมาณ 1ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงแล้ว อ.สังขละบุรี
จาก กรุงเทพ-ทองผาภูมิ 287กิโลเมตร
จาก ทองผาภูมิ-สังขละบุรี 73กิโลเมตร

ที่พัก 2คืนของผม ผมเลือกพักที่นี่ครับ คอฟฟี่เบอรี่ สังขละบุรี(Coffee Berry Sangklaburi) ที่พักราคาหลักร้อย อยู่ไม่ไกลจากสะพานมอญมากนัก สามารถเดินไปได้ หรือ เอาจักรยานของทางรีสอร์ทปั่นไปก็ได้ 

#พิกัด คอฟฟี่เบอรี่ สังขละบุรี(Coffee Berry Sangklaburi) https://www.google.co.th/maps/dir//15.1506288,98.4503556/@15.150715,98.4503619,17.75z

#รีวิวที่พักคลิ๊กที่ภาพนะครับ หรือตาม Link นี้ก็ได้
http://www.tumman.com/2016/09/coffeeberry.html

ถึงที่พักก็ใกล้ค่ำแล้ว ฝนก็ตกหนัก เลยต้องเดินหาของกินแถวๆ ที่พัก เดินมาไม่ไกลก็เจอร้านนี้ ไม่รู้ว่าขายอะไร แต่ดูแล้วน่าลองมากๆ

 หม้อเดือดๆ ควันขึ้นเยอะๆ แบบนี้ มันยั่วยวนใจเหลือเกิน 



 
เมนูมื้อเย็นวันนี้ #ขนมจีนน้ำยาหยวกกล้วย #ฟักเขียวทอด #ฟักทองทอด
ตอนแรกก็สั่งๆไป เพราะหิว พอลองได้ชิม ผมถึงกับต้องสั่งเพิ่มอีกอย่างละจานเลย
อร่อยมากๆ #ขนมจีน2 #ของทอด4จาน คิดราคามา 45บาท ถูกมากๆ  




ตัดบรรยากาศมาเช้าอีกวัน ผมปั่นจักรยานข้ามมาฝั่งมอญ เพื่อจะมาหาร้านโจ๊กทานกันเช้านี้ ปรากฎว่าเจ้าของป่วย #ปิดร้าน เลยต้องเปลี่ยนโปรแกรมกินใหม่เลย  เป็น ขนมจีนร้านป้าหยิน ที่ใครมาแล้วต้องมาลองชิม เพราะมันอยู่ใกล้สะพานมาก  
  

 

 มาถึงร้านแล้ว เช้านี้ก็เลยจัดเต็มเลย #ร้านป้าหยิน 
เมนูเช้านี้ - โจ๊ก / ขนมจีนน้ำยาหยวกกล้วย / น้ำยาฮังเล / น้ำยาปลา อิ่มเลย
โดยรวมรสชาติขนมจีนสังขละ รสชาติไม่ค่อยจัดจ้านเท่าไหร่ ออกจืดๆ  (ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ) 



กินเสร็จ ก็เริ่มลุย อ.สังขละบุรีกัน
ขอแว๊ปมาดู ตลาด แป๊ปนึงเผื่อตอนเย็นจะแวะมาหาของทานเล่นกันตอนค่ำๆ



ออกไปตามหามุมถ่ายภาพ #สะพานมอญ กันต่อเลย







ภาพจากมุมแรกของผม ภาพถ่ายจากสะพานซองกาเลียhttps://www.google.co.th/maps/dir/15.1447517,98.4452039//@15.1444992,98.4452485,18.75z 

มาต่อกันกับมุมถ่ายรูปจุดที่สอง จุดชมวิวทิวทัศน์












ภาพจากจุดที่สอง จุดชมวิวทิวทัศน์

ไปต่อกับจุดถ่ายภาพจุดที่สามของผม









ภาพจาก มุมถ่ายภาพที่สาม ของผม
https://www.google.co.th/maps/dir/15.1446965,98.4532203//@15.1447006,98.4532586,18.33z

มุมถ่ายภาพที่สี่ เด็ดที่สุดคงหนีไม่พ้นที่นี่ สามประสบรีสอร์ท













มุมถ่ายภาพที่สี่  สามประสบ รีสอร์ท




 
มุมถ่ายภาพที่ห้า ที่สำคัญสุด บนสะพานมอญ ไปต่อกันครับ


















วิวสะพานมอญโล่งๆ แบบนี้ เก็บภาพเป็นที่ระลึกให้มากที่สุด เพราะคงไม่ได้ผ่านมาบ่อยๆ กับ อ.สังขละบุรี

จุใจแล้วก็ได้เวลาทานอาหารเย็นกันแล้ว มื้อเย็นผมเลือกที่จะทานอาหารเอาบรรยากาศที่ 
สามประสบรีสอร์ท ไปทานข้าวชมวิวกันครับ




สามประสบรีสอร์ท ห้องอาหารเปิดเวลา 17.00น. นะครับ







เมนูอาหารเย็นวันนี้ที่ สามประสบรีสอร์ท ทานไปชมวิวไป ราคาอาหารก็อยู่ในราคาที่นักท่องเที่ยวทั่วไปรับได้ ไม่แพงเวอร์ แนะนำเลยครับ มาเร็วหน่อยจะได้ชมวิวนานๆ เสียดายไม่ได้เอาขาตั้งกล้องติดมาด้วย ไม่งั้นได้เก็บภาพบรรยากาศกลางคืนมาฝากกัน




แต่เรื่องกินก็ยังไม่หมด สองทุ่มผมก็ออกไปหาของกินอีก มาแล้วนิ จะพลาดได้ไง
กับ หมูจุ่มพม่า เมื่อ 10กว่าปีที่แล้ว ผมเดินทางมา บรรยากาศการกินไม่ได้ดูดีแบบนี้ สมัยนั้นยังเป็นหม้อน้ำเดือดๆ วางกับพื้น มีเก้าอี้เล็กๆ นั่งยองๆ เหลา กันเป็นวง คงเป็นตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป

#มีสองร้านนะครับ ร้านแรกที่ว่าอร่อยๆกัน จะอยู่ตรงข้ามเซเว่น คนนั่งกันเยอะมาก ผมเลยมากินอีกร้านนึงที่อยู่ใกล้ๆกันแทน

  

มาภาคเช้าอีกวัน มาชมบรรยากาศยามเช้ากันต่อเลย











ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเช้าเสร็จเราก็เริ่มเที่ยวกันต่อ นั่งเรือไปเที่ยววัดกัน เริ่มโดยการติดต่อเรือนำเที่ยว ติดต่อโดยที่เราไม่ต้องไปหาเลย เพราะจะมีคนเดินมาถามตลอด #นั่งเรือชมวัดไหม ราคาเท่านั้นเท่านี้ ลองต่อราคากันหน่อยนะครับเพราะแต่ละคนมาราคาไม่เท่ากันเลย จากราคา 500บาท ผมได้มาในราคา 250บาท นะครับ (ราคานี้ผมไม่ได้ต่อราคาเค้านะครับเค้าเสนอมาให้ผมเอง)

ว่ากันว่าในบรรดาวัดของทริปล่องเรือนั้น มี 2 วัดที่จมอยู่ใต้น้ำ หรือโผล่พ้นเหนือน้ำ นั่นก็คือวัดวังก์วิเวการามเก่า หรือวัดหลวงพ่ออุตตมะ และวัดศรีสุวรรณนี่เอง ส่วนอีกวัดหนึ่งนั้นคือวัดสมเด็จเก่า ซึ่งอยู่บนเนินเขา ทั้ง 3 วัด เป็นเสมือนตัวแทนของ 3 ชนชาติ นั่นก็คือ
วัดวังก์วิเวการาม คือ วัดของชาวมอญ
วัดศรีสุวรรณ คือ วัดของชาวกระเหรี่ยง
วัดสมเด็จ คือ วัดของชาวไทย

ปี 2529 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำที่อำเภอทองผาภูมิ เมื่อการไฟฟ้าเก็บกักน้ำอำเภอสังขละบุรีจึงจมน้ำอยู่ใต้ท้องเขื่อนเขาแหลม อำเภอสังขละบุรีจึงย้ายขึ้นมาอยู่ในที่ตั้งที่ว่าการในปัจจุบัน หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองตรงกับสมัยพระศรีสุวรรณคีรีองค์ที่ 5 ทางการได้จัดตั้งการปกครองเป็นอำเภอ ได้แต่งตั้งพระศรีสุวรรณคีรีเป็นนายอำเภอสังขละบุรี

สังเกตุได้ว่า วัดทั้ง 3 ทำมุมเป็น 3 เหลี่ยมครอบจุดบรรจบของแม่น้ำทั้งสามสาย หรือที่เรียกว่า "สามประสบ" นั่นเอง








ก่อนลงเรือก็ยังมีมุมให้เก็บภาพอยู่ตลอดเลย #สะพานมอญ







ระหว่างทางไปชมวัดแรก ก็เก็บภาพไปเรื่อยครับ




วัดที่1 วัดศรีสุวรรณ (เก่า) พอเข้าฤดูฝน ก็ไม่สามารถที่จะเห็นภายในได้
















ไปต่อกันวัดสุดท้าย วัดวังก์วิเวการาม (เก่า)



















หลังจากมีการสร้างเขื่อนเขาแหลมหรือเขื่อนวชิราลงกรณ์ แล้วน้ำในเขื่อนได้เข้าท่วมตัวอำเภอสังขละบุรีเก่า รวมไปถึง วัดวังก์วิเวการามเก่า จึงได้ย้ายวัดวังก์วิเวการามมาอยู่บนเนินเขาในปัจจุบัน และในปี 2546 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดให้พระอุโบสถหลังเก่าที่จมอยู่ใต้น้ำเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์ (Unseen Thailand) พระอุโบสถหลังเก่าที่จมอยู่ใต้น้ำจึงเป็นที่รู้จักกันในชื่อวัดใต้น้ำ สังขละบุรี หรือเมืองบาดาล

เที่ยวเก็บภาพแบบจุใจก็ได้เวลากลับขึ้นฝั่งแล้ว








ขากลับเราสามารถบอกพี่คนเรือได้นะครับว่าอยากจะลงฝั่งไหน เผื่อยังเก็บภาพไม่คุ้มจะได้ไม่ต้องเดินไกล


ขึ้นจากเรือมาก็หมดแรงเดินกลับขึ้นมาซิครับ เลยต้องพึ่งพี่วินมอเตอร์ไซน์ ให้มาส่งที่รีสอร์ท คนละ 20บาท ไม่ต้องเหนื่อยเดิน 








เที่ยงก็ได้เวลาออกจากโรงแรม แต่ทริปยังไม่จบไปกินกันต่อ เที่ยงวันนี้ผมเสนอร้านนี้ครับ
#ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเจ๊พร ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ที่เขาว่าอร่อยๆ ในสังขละบุรี

พิกัดร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเจ๊พร
https://www.google.co.th/maps/dir//15.1543113,98.4471442/@15.1542437,98.4470926,20.54z



อิ่มแล้วไปต่อกันที่ เจดีย์พุทธคยา และ วัดวังก์วิเวการาม

วัดวังก์วิเวการาม หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า "วัดหลวงพ่ออุตตมะ" นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอสังขละบุรีแล้ว ยังเป็นวัดที่ถือว่ามีความสำคัญมากสำหรับคนพื้นถิ่น และเป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คนหลายเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ในอำเภอสังขละบุรี ทั้งชาวไทย และกะเหรี่ยง โดยเฉพาะสำหรับชาวไทยเชื้อสายมอญ ที่เปรียบหลวงพ่ออุตตมะเป็น "เทพเจ้าแห่งชาวมอญ" วัดวังก์วิเวการาม จึงเกิดจากพลังศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่อ และเป็นวัดที่เคยเป็นที่จำพรรษาของ "หลวงพ่ออุตตมะ" วัดจึงเป็นเสมือนตัวแทนหลวงพ่อ และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวมอญ ในการประกอบพิธีกรรมตามประเพณีของมอญ













ก่อนกลับลุยฝนย้อนเข้ามาในตัว อ.สังขละ อีกรอบ แวะทานกาแฟ ที่ คาฟคาเฟ่ กันครับ เป็นทั้งร้านกาแฟและด้านหลังยังเป็นที่พักแนวๆ สไตล์ญี่ปุ่น ที่น่าสนใจอีกหนึ่งที่
พิกัดร้าน : https://www.google.co.th/maps/dir/15.1438027,98.4567028//@15.1439112,98.4565022,20.79z







ภาพหมดแล้วครับ สำหรับทริป สังขละบุรี-สะพานมอญ ของผม หวังว่าข้อมูลเล็กๆน้อยๆนี้ คงมีประโยชน์กับคนที่จะเดินทางนะครับ ลองเก็บไว้เป็นตัวเลือกในการเดินทางฝนนี้นะครับ 

แผนที่ตำแหน่งในทริปนี้ครับ

กดถูกใจเพจ เพื่อติดตามการเดินทาง รีวิวข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว
ได้ที่ 
https://www.facebook.com/PagesTumman




ความคิดเห็น