PART4. วันที่3ของการเดินทาง เรามาไปเที่ยวกันต่อที่ Kawaguchiko(คาวากุจิโกะ) กันครับ ข้อมูลที่กิน ที่พัก การเดินทางแน่นเหมือนเดิม
PART.1 เตรียมตัวเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งแรก
http://www.tumman.com/2017/03/tokyo.html
PART.2 StartTrip ออกเดินทางไปญี่ปุ่นกัน
http://www.tumman.com/2017/03/StartJapan.html
PART.3 GALA YUZAWA - YUZAWA KOGENhttp://www.tumman.com/2017/03/yuzawa.html
06.50น. เช้าวันที่3ของการเดินทาง ผมฝากกระเป๋าเดินทางไว้ที่โรงแรม Mystays Ueno Inaricho แล้วเอาเฉพาะเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนและของที่ต้องใช้ใส่กระเป๋าสะพายหลังไปครับ จะได้เที่ยวได้สะดวกๆ
จากที่พักอูเอโนะ เราต้องเดินทางไปขึ้นรถไฟกันที่สถานี ชินจูกุ โดยนั่งรถไฟสาย JR Yamanote Line (สีเขียว ยามาโนะเตะ) For Ikebukuro/shinjuku
7.30น.ผมก็ถึงสถานี Shinjuku แล้วครับ สถานีที่หลายๆคนกลัวหลงกัน แต่ถ้าดูป้ายเป็น ทำการบ้านมายังไงก็ ไม่หลงแน่นอนครับ
ออกจากรถไฟ JR ลงบันไดมา จะเจอป้ายบนเพดานเต็มไปหมด ให้หาป้ายคำว่า Chuo Line นะครับ ถ้าเห็นคำนี้ เดินตามลูกศรมา จะขึ้นมาบน TRACK เลยครับ
ที่ป้ายไฟจะบอกชื่อสายรถไฟที่เราจะเดินทาง ใครทำการบ้านจากHiperdiaมา ก็ดูสายรถไฟของตัวเองแล้วยืนรอได้เลยครับ แบ่งเวลา/Track ชัดเจน ไม่ขึ้นผิดแน่นอน
คันนี้ไม่ใช่ที่ผมไปนะครับ คันนี้เป็นรอบ 8.00น. เพราะของผม For Matsumoto รอบ 8.30น. ระหว่างรอก็เก็บภาพเล่นไปเรื่อยๆ ชมวิถียามเช้าของชาวญี่ปุ่น
คนรอขึ้นรถไฟเยอะมากๆ
ตรงTrack มีร้านขายอาหาร ตู้กดน้ำ ไว้ไปทานบนรถไฟด้วยนะครับ ถ้าลืมซื้อก็มาซื้อตรงนี้ได้
มาแล้ววววว รถไฟที่เราจะนั่งไปคาวากุจิโกะ ขบวนนี้จะต้องไปเปลี่ยนรถไฟที่สถานี โอซึกิ(Otsuki)
ผมจองมาจากไทย ขึ้นตั๋วที่สนามบิน จะมีรายละเอียดบอกไว้ในตั๋วครบ แต่ใครไม่ได้จองมา ก็ขึ้นที่ตู้ non-reserved ได้เลยครับ (Tokyo Wide Pass)
ที่นั่งกว้างขวาง นั่งสบายมากๆ
นั่งมาประมาณ 1ชั่วโมง ก็ถึงสถานี โอซึกิ(Otsuki)
ใครที่จะไปคาวากุจิโกะ เกือบทุกคนคงต้องเช็คสภาพอากาศกัน ผมก็เช็คนะครับก่อนมา ก่อนเดินทาง และ ขณะเดินทาง มีทั้งฝน ทั้งหิมะ เลยในช่วงวันที่ผมเดินทาง แต่ทำไงได้ จองที่พักไปแล้ว ยังไงก็ต้องไป
ถึงสถานี โอซึกิ(Otsuki) ก็ไม่ต้องกลัวหลง หรือ งง เพราะสถานีนี้ เป็นสถานีเล็กๆ ไม่ได้ใหญ่โต ลงรถไฟมาก็จะมีป้ายบอกทางเป็นระยะๆ ว่าให้เราเดินไปทางไหน สังเกตุป้าย Fujikyu Railway
พิกัดสถานี โอซึกิ(Otsuki) https://www.google.co.th/maps/place/Otsuki+Station/@35.5478079,138.9679693,11.75z/data=!4m5!3m4!1s0x0:0x59c29edf70d5a540!8m2!3d35.6134533!4d138.942461
เดินตามป้ายมาก็จะเจอ จนท.คอยตรวจบัตร สำหรับเรา TOKYO WIDE PASS ไม่ต้องไปที่ตู้ขึ้นตั๋วอะไรทั้งนั้น (ยกเว้นจะจองที่นั่งขบวนรถไฟที่ต้องการ) ให้เดินไปหา จนท.แล้วยื่น TOKYO WIDE PASS ให้ จนท.ดู แล้วก็เดินผ่านช่องพิเศษ เข้าไปด้านในได้เลย
เดินเข้าไปนิดเดียวก็เจอขบวนนี้จอดรออยู่แล้ว แถมฝนปรอยๆ รีบโดดขึ้นไปนั่งก่อนเลย ไม่ได้ถ่ายภาพสถานีเก็บไว้เลย (แอบเสียดาย)
จำชื่อขบวนรถไฟไม่ได้นะครับ เพราะพอถึงตรงนี้ผมไม่ได้เช็คเที่ยวรถไฟมาเลย กะว่าอะไรออกก่อนก็ขึ้นคันนั้นไปเลย
สำหรับเที่ยวรถไฟนี้ผมไม่ได้จองมานะ เลยต้องมานั่งที่ตู้ non-reserved ผมก็เลือกนั่งตู้สุดท้ายเลย ทำไมนะหรอ
เพราะตู้สุดท้ายก็เหมือนตู้ที่เขาแย่งจองกันนั่งหน้าแหละครับ เพื่อจะได้ชมวิว แต่แค่วิวของผมมันถอยหลังแค่นั้นเอง 55555 แต่ก็ได้บรรยากาศเหมือนนั่งหัวขบวนนะครับ
จากสถานี โอซึกิ(Otsuki) ไป สถานี คาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) ประมาณ 50นาที
พอเริ่มเห็นภูเขาไฟฟูจิ ผมกับแฟนก็เริ่มดราม่า แบบทำใจและคิดว่าคงไม่ออกมาให้เห็นแน่ๆ
เห็นแค่นี้ก็รู้เลยว่า ภูเขาไฟฟูจิ ใหญ่มากกกกกก
ออกจากสถานี ชินจูกุ เวลา 8.30น. ถึงสถานีคาวากุจิโกะ เวลา 10.52นาที
พิกัดสถานี Kawaguchiko
https://www.google.co.th/maps/place/Kawaguchiko+Station/@35.496791,138.7696533,14.5z/data=!4m5!3m4!1s0x60196082ba487757:0x4d9403afbe34b4ed!8m2!3d35.4982336!4d138.7688416
https://www.google.co.th/maps/place/Kawaguchiko+Station/@35.496791,138.7696533,14.5z/data=!4m5!3m4!1s0x60196082ba487757:0x4d9403afbe34b4ed!8m2!3d35.4982336!4d138.7688416
มาถึงสถานีคาวากุจิโกะ ก็ไปติดต่อ จนท.เพื่อซื้อพาส Kawaguchigo “R” Coupon แต่ จนท.ไม่ขายให้ครับ เพราะ อากาศไม่ดีเรือที่ออกไปชมวิว ไม่เปิดให้บริการ และ Ropeway kachikachi ปิดปรับปรุง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเลยซื้อเฉพาะตั๋วรถบัส แบบ2วันมาใช้ ไปเที่ยวกันเลยครับ
กะว่าซื้อตั๋วเสร็จจะถ่ายรูปเล่นที่สถานี จนท.ก็โบกมือเรียกว่ารถกำลังจะออกแล้วขึ้นไหมๆ ก็เลยต้องขึ้นไปตามคำเชิญ
ซึ่งเราจะไปเที่ยวสาย RED LINE กันครับ
เวลาตอนนี้ประมาณ 11.30น. ซึ่งก็น่าจะได้เวลามื้อกลางวันพอดี ร้านที่ผมเตรียมข้อมูลมามื้อนี้ จะลงรถที่สถานี Kawaguchiko Museum of Art ตามแผนที่จะเป็น ป้ายที่ 16
วงสีแดง คือจุดลงรถบัสนะครับ เพียงแค่เดินข้ามถนนมาก็จะเจอร้านนี้เลยครับ
ข้ามถนนมาแล้วจะเจอร้านเลยครับ HOUTO LABO
HOUTO เป็นอาหารพื้นเมืองของที่นี่ แต่ละคนมาจะไปทานกันแต่ร้านตรงหน้าสถานี ซึ่งผมว่ามันเฉยๆนะ เลยค้นจาก Map มาเจอร้านนี้ แค่เห็นภาพก็ต้องมาโดนให้ได้แล้ว เครื่องแน่นๆ ราคาไม่แพง
น่าทานไหมครับ เครื่องอัดแน่นมากๆ
หอยเชลตัวใหญ่ๆ
ขาปู กุ้ง ปลา ชิ้นเป้งๆ น้ำซุปอร่อยมากๆ
ผมกินกับนี่เลย เบียร์ฟูจิ 5555 อากาศเย็นๆ เป็นของคู่กัน
เมนู ซูชิHOUTO แนะนำว่าอย่าสั่ง เหมือนกินแป้งห่อสายหร่าย 555+
คนไม่เยอะ นั่งเงียบๆ บรรยากาศดีมากๆ ครับ
บรรยากาศหน้าร้านครับ ราคาชัดเจน
ใส่ใจทุกรายละเอียด ใครพาสุนัขมา สามารถนั่งทานข้างนอกอยู่กับสุนัขก็ได้
มาลุยกันต่อครับ ยังไม่ได้ไปไหนกันเลย บ่ายโมงแล้ว
จากหน้าร้านเดินกลับมาที่ป้ายรถบัส เนื่องจากฟ้าไม่เปิด เลยเปลี่ยนโปรแกรมเป็นเดินเล่นเลยละกัน เลยมาเดินเลาะทะเลสาบ เก็บภาพบรรยากาศไปเรื่อยๆ จากภาพดูเหมือนจะชิวนะครับ แต่อากาศ 4องศา และลมแรงมากๆ (ใครไม่ชอบเดินไม่แนะนำนะ) เมื่อยสุดๆ 555
เดินเก็บภาพไปเรื่อยมาเที่ยวอย่าไปเร่งรีบ
ฟ้าเริ่มเปิดหน่อยๆ เริ่มเห็นฟูจิชัดขึ้นๆ แต่ก็ไม่ได้หวังว่าจะเห็นเต็มตาเต็มใบ
เดินมาเจอตู้กดน้ำทีไร เป็นต้องเสียตังส์ทุกที
ชิวไปชิวมา ฟ้าเริ่มเปิด เมฆเริ่มคลายออก คราวนี้รีบเดินเลยซิครับ
14.00น. เดินมาเรื่อยๆ ออกมาถึงป้ายรถบัสที่19 ดูตารางเวลารถแล้ว กว่าจะมาอีกตั้ง 15นาที เดินต่อละกัน
เดินต่อดราม่าหนักกว่า ต้องเดินผ่านอุโมงค์ ซึ่งลมที่ผ่านอุโมงค์แรงมากๆ อากาศก็ 4องศา หน้าชากันเลยทีเดียว
มารอรถบัสอีกป้ายนึง ป้ายที่20 ซึ่งป้ายนี้ใครที่พักแถวนี้จะได้เปรียบเลย เพราะบรรยากาศตอนเช้ากับวิวฟูจิ ที่ทะเลสาบน้ำนิ่งๆ จะได้รูปสวยมากๆ
เดินจนคุณแฟนต้องถามว่า ถ้าเดินขนาดนี้จะซื้อ บัตรรถบัสมาทำไม 5555+
นั่งรถบัสมาที่ป้ายสุดท้าย ป้ายที่22 Kawaguchiko Natural Living Center
14.30น. เราก็มาถึง Kawaguchiko Natural Living Center
คนน้อยๆ บรรยากาศสงบๆ ได้นั่งชมภูเขาไฟฟูจิ เป็นอะไรที่ฟินมากๆ
และมาถึงนี่แล้วจะไม่สั่งก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง ไอศครีมซอฟครีม
ในที่สุด ฟูจิซังก็ยอมออกมาเจอกันแล้วววว โชคดีจริงๆ
นั่งชมวิวไป กินไอศครีมไป ฟินจนลืมไปว่า เฮ้ย!! นี่อากาศ 4องศานะ
ไม่มีคำอธิบายอะไรต่อ ไปชมบรรยากาศ กันครับว่าที่นี่จะได้เจออะไรบ้าง
ก่อนเดินทางมาผมก็ว่าไม่เห็นจะใหญ่เลยธรรมดาๆ ภาพที่ใครๆต่อใครถ่ายมารวมทั้งผมด้วยเล็กจะตาย แต่พอได้มาเห็นด้วยตาจริงๆ มันใหญ่มากกก สวยสง่า สมคำร่ำลือ เชื่อแล้วสำหรับผม ใครไม่เชื่อต้องมาชมด้วยตัวเอง
แบบจำลองภูเขาไฟฟูจิ ที่เก็บหินจากรอบๆ ภูเขาไฟมาอย่างละก้อน แล้วมารวมไว้ตรงนี้
16.20น. ถึงเวลาต้องเดินทางกันต่อแล้ว เพราะที่ญี่ปุ่นมืดเร็วกลัวจะไปถ่ายรูปบรรยากาศที่โรงแรมไม่ทันแสงตอนเย็น ไปๆๆ
รอบรถที่ผมกลับ โล่งเลยครับ ทั้งคันนั่งกันอยู่ 4คน จนถึงสถานีคาวากุจิโกะ
16.35น. ผมก็กลับมาถึงสถานี คาวากุจิโกะ
เข้าไปที่สถานีรถไฟกันครับ โดยใช้ TOKYO WIDE PASS นั่งรถไฟไปยังที่พักเรากัน แค่สถานีเดียว สอบถาม จนท.ว่าคันไหนผ่านบ้าง จนท.บอกผ่านทุกขบวน ครับ
รถไฟสายนี้ ถ้าใครจะขึ้นให้กดปุ่มเปิด/ปิด ที่ประตูเองนะครับ ไม่ได้เปิดให้ออโต้ อย่าเผลอยืนรอประตูเปิดจนรถไฟออกนะครับ อิอิ ..
จากสถานีคาวากุจิโกะ นั่งมาหนึ่งสถานีก็ถึง สถานี FujiKyu Highland Station
รถไฟจะจอดหน้าสวนสนุก Fuji Q highland ซึ่งสวนสนุกนี้ขึ้นชื่อเป็นอันดับต้นๆของโลกเลยนะครับ เรื่องรถไฟเหาะ กับบ้านผีสิง ครั้งนี้จุดหมายของเรายังไม่ใช่ที่นี่ แต่ก็ยืนถ่ายคลิปมาฝากกันครับ แค่ยืนดูยังเสียวแทน
คลิปรถไฟเหาะ Fuji Q highland
จากสถานี เดินไปหน่อยเดียวก็ถึงโรงแรมที่พักของเรากันแล้วครับ 5นาที
นี่ไงครับที่พักของผมคืนนี้ HOTEL MYSTAYS Fuji
รีวิวที่พัก HOTEL MYSTAYS Fuji
http://www.tumman.com/2017/03/mystays-fuji.html
http://www.tumman.com/2017/03/mystays-fuji.html
มื้อเย็นอากาศ 1องศา หนาวๆแบบนี้ ต้องกินปิ้งย่างครับ
จากที่พัก HOTEL MYSTAYS Fuji ให้เดินย้อนกลับไปทางสถานี Fuji Q เดินแค่ 5นาทีก็ถึงแล้ว ไปกินกันๆ
เดินมาสังเกตุปั๊มน้ำมัน ร้านจะอยู่ติดๆกับปั๊มน้ำมัน สีแดงเปิดไฟสว่างๆ ข้างๆร้านก็มี Lowson ให้ช๊อปต่ออีก
ไปดูบรรยากาศในร้านกันครับ
เมนูเพี้ยบบบบบบ ชี้อย่างเดียว
ถ้ามีเด็กมาด้วย เค้ามีโซนไว้ให้เด็กๆได้เล่น พ่อแม่ก็ปิ้งย่างไป
ถ้ามาหลายคนอยากเป็นส่วนตัวก็มีห้องให้นั่งกัน
เข้าร้านไหนเป็นต้องสั่งเบียร์มากิน เพราะเบียร์ญี่ปุ่นชื่นใจจริงๆ
ไม่รู้เนื้อหรือหมูจำไม่ได้นะครับ เพราะชี้อย่างเดียว
ลายสวยๆ กินร้อนๆ ฟินเลย
เนื้อฉ่ำๆ ย่างเตาถ่านร้อนๆ อยากกินอีกครั้งเลย
กินที่ร้านยังไปพอ ก่อนกลับรร.ได้ของติดไม้ติดมือมาจาก Lowson อีกนิดหน่อย มื้อดึกๆ
ระหว่างกินขนมก็ได้ยินเสียงปุ้งๆๆๆ ดังมาจากนอกหน้าต่างห้องพัก แฟนเลยทักว่าเสียงพลุหรือเปล่าที่เพื่อนผมมาแล้วลงคลิปให้ดู เลยเปิดหน้าต่างออกไปดู
Kawaguchiko Winter Fireworks ผมไม่ได้รู้เรื่องเลยว่ายังมีอยู่นึกว่าหมดไปแล้ว จนเพื่อนผมบอกมาในเฟสวันนี้จัดเป็นวันสุดท้าย โชคดีจริงๆ อากาศ1องศา ลมแรงๆ เกร็งจนมือแข็ง หน้าชาเลยกว่าจะถ่ายได้ 55
ขอบคุณเพื่อนฮาหนุ่มที่มาก่อนแล้วลงเฟสให้ชมนะ ไม่งั้นไม่รู้เรื่องเลยว่ามี
คลิป VDO Kawaguchiko Winter Fireworks บันทึกจากหน้าต่างห้องพัก
ตัดภาพมาบรรยากาศตอนเช้า โปรแกรมเปลี่ยนได้ตลอดเวลาจริงๆทริปนี้ วิวจากหน้าต่างห้องพัก เวลา 7.00น. คิดว่าวันนี้คงไม่เห็นฟูจิแน่ๆ คงไม่ต้องไปเจดีย์แดงแล้ว เพราะไปก็ไม่เห็น ไปทะเลสาบดีกว่า
8.00น. ชิวไปชิวมาในห้องพัก หันมาที่หน้าต่าง เห้ยยยยยย เปิดแล้ว รีบเก็บกระเป๋ากันด่วนเลยครับ ฟ้าเปิดแบบนี้ไป Chureito Pagoda(เจดีย์แดง) ได้แล้ว
เดินกลับมาที่ สถานี FUJIKYU
สอบถาม จนท.เพื่อความชัวร์ ว่ามีรถไฟรอบกี่โมงไปสถานี Shimoyoshida (ใครไม่มีตารางรถไฟที่ได้จากสถานี Kawaguchiko ให้สอบถาม จนท.เพื่อขอตารางรถไฟได้นะครับ) ส่วนผมถามเพื่อความชัวร์ เพราะรถไฟที่จะจอด สถานี Shimoyoshida จะมีแค่บางสาย และ บางเวลานะครับ เช็คดีๆ
ยื่นบัตร TOKYO WIDE PASS ให้จนท.ดูแล้วก็ผ่านตลอดเข้ามารอรถไฟกันครับ จะไปสถานี Shimoyoshida ให้รอรถไฟที่จะไป Otsuki นะครับ (ตามป้ายไฟ)
ระหว่างรอรถไฟก็เก็บภาพไปเรื่อยๆ กลุ่มวัยรุ่นต่อคิวเพื่อรอซื้อบัตรเข้าสวนสนุกกันแต่เช้าเลย
จากสถานี Fuji Q - shimoyoshida
9.15 น.เราก็มาถึงสถานี shimoyoshida เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เตรียมเดินๆๆๆๆๆ ไป Chureito Pagoda(เจดีย์แดง)
ย้ำนะครับ มาถึงสถานี shimoyoshida ให้เช็ครอบรถไฟที่จะเดินทางต่อไปยังสถานี คาวากุจิโกะเลย ว่ามีรอบกี่โมง จะได้เที่ยวแบบสบายใจ
ออกจากสถานีก็มีป้ายบอกทางเดินเป็นระยะๆ ไม่ต้องกลัวหลงนะครับ
เส้นทางที่ต้องเดิน
ทางเดินยังสวย
ระหว่างทางเดินสวยงามมากๆ เดินไม่มีเบื่อ
เห็นทางเดินก็เหนื่อยแล้ว เดินขึ้นเหนื่อยกว่า 555
ถ้าเป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เส้นทางรถก็น่าเดินเหมือนกันนะครับ
9.50น. ถึงแล้ว มุมยอดฮิตมหาชน Chureito Pagoda (เจดีย์แดง)
เก็บภาพบรรยากาศให้เยอะที่สุด ไม่ได้มากันบ่อยๆ
10.20น. ถ่ายรูปจนพอใจ นั่งฟิน อัพเฟสเสร็จ ก็ได้เวลาลงแล้ว
ระหว่างเดินลงก็มีมุมให้ถ่ายภาพได้เรื่อยๆ จริงๆ
ระหว่างเดินลงก็เจอกลุ่มเด็กๆที่ครูน่าจะพามาทัศนศึกษา เก่งมากให้เดินขึ้นกันเองด้วย
แวะไหว้ศาลเจ้า Niikurafujisengen Shrine ก่อนจะลงซึ่งอยู่ระหว่างทางเดิน ขึ้น/ลง
http://www.arakurasengen.com
http://www.arakurasengen.com
อยากนั่งมองวิวนานๆ ตรงนี้จัง แต่เวลาเรามีน้อยต้องไปกันต่อ
ระหว่างทางเดินกลับมาหน้าสถานี วิวสวยงามมากๆ
จากเจดีย์แดง เราไปถ่ายรูปต่อกันครับ ถ้าใครกลัวหลงก็ให้เดินกลับมาที่สถานีรถไฟแล้วเริ่มเดินนะครับ
ใครอยากถ่ายภาพมุมนี้ ก็ตามแผนที่ทางเดินข้างบนนะครับ พิกัด https://www.google.co.th/maps/@35.495066,138.8042922,20.87z
11.50น. ก็ได้เวลามารอรถไฟไปคาวากุจิโกะ กันอีกรอบ
ถึงสถานี Kawaguchiko เวลาประมาณ 12.10น.
ทีแรกตั้งใจจะไปถ่ายรูปอีกครั้งที่ ป้ายสุดท้าย แต่คุยกับคนขับถามเขาว่า วันนี้เรือกับ Ropeway เปิดปกติหรือยัง คนขับบอกว่า Ropeway วันนี้เปิดให้บริการแล้วครับ หลังจากปิดปรับปรุงมานาน ก็เลยเปลี่ยนเป้าหมายทันทีลงที่ Kawaguchiko Ropway , Mt. Kachi Kachi Ropeway ซึ่งอยู่ ป้ายที่11
เนื่องจากไม่ได้ซื้อบัตรแบบเหมามา เลยต้องต่อคิวซื้อตั๋วเองที่ตู้ ไม่ต้องกังวลเรื่องการซื้อตั๋วนะครับ เพราะที่ตู้มีภาษาไทยให้กดครับ สบายเลย
ได้แล้วตั๋วไป/กลับ
ยืนรอคิวไม่นานก็ได้ขึ้นแล้วครับ
ถ่ายคลิปกระเช้า Kawaguchiko Ropway , Mt. Kachi Kachi Ropeway มาฝากครับ
ข้างบนกำลังปรับปรุงอยู่ เหลือเจ้ากระต่าย กับ ทานุกิ ให้ถ่ายรูปอยู่แค่นี้
เศร้ากว่านั้น ไม่มีดังโงะ ขายในวันที่ผมไป
มาดูมุมสูงกันบ้าง ว่าเขาปรับปรุงอะไร
ปรับปรุงต่อเติม
ช่วงหลังเที่ยงเมฆก็เริ่มเยอะอีกครั้ง
13.30น. ตั้งใจจะไปกันต่อที่ป้ายสุดท้าย แต่ดูจากเมฆแล้ว คงไม่เห็นฟูจิแน่ๆ กลับไปสถานีคาวากุชิโกะกันดีกว่า
นั่งบนรถบัสหยิบตารางรถไฟมาดู ก็เอ๊ะ มันมีเที่ยวรถไฟวิ่งตรง จากคาวากุชิโกะ - ชินจูกุ เลยหรอเนี่ย มีเฉพาะวันศุกร์ด้วย (วันที่ผมไป) ก็เลยไปติดต่อ จนท.เลยครับ
13.48น. ถึงสถานีรถไฟ Kwaguchiko **ขากลับผมได้จองตั๋วรถไฟล่วงหน้ามา Kawaguchiko-Otsuki- shinjuku ซึ่งต้องเปลี่ยนรถไฟที่สถานีOtsuki จึงต้องไปติดต่อ จนท.เพื่อขอเปลี่ยนตั๋วก่อนเพื่อจะได้วิ่งตรงจาก Kawa-shinjuku
จนท.ก็ขอดูบัตร TOKYO WIDE PASS กับ ตั๋วที่เราออกล่วงหน้ามา ก็ทำการ Cancel ตั๋วเก่า (Osuki-shinjuku) และออกตั๋วใหม่ให้เป็น Kawaguchiko-shinjuku สบายแล้วไม่ต้องเปลี่ยนรถไฟ นั่งกันยาวๆเลย แต่นี่มันจะบ่าย2แล้ว มีเวลาให้ทานข้าวแค่ 20กว่านาที รีบเลยครับทีนี้
กินกันที่สถานีเลยครับมื้อนี้ เวลาน้อยไม่มีตัวเลือก มีอาหารอยู่ไม่กี่อย่าง ดูจืดๆ แต่พอได้กิน ก็อร่อยดีครับ
รีบกินๆ แล้วก็ยังพอมีเวลาให้ไปเดินถ่ายรุปได้อีกนิดหน่อย
ได้เวลาเดินทางกลับ Ueno
14.19น. ก็ได้เวลาขึ้นรถไฟแล้วครับ นั่งพักผ่อนหลับกันยาวๆ เลย 2ชม.ถึงสถานี Shinjuku
17.30น. ระหว่างทางกลับโรงแรม ก็ต้องเดินผ่านร้านสะดวกซื้อหลายร้าน ด้วยความเพลียที่ลุยกันมา 2วันเลยซื้อกลับมาทานที่ห้องบางส่วน หิวๆๆๆ กลับถึงที่พัก เช็คอินกันอีกครั้ง จนท.เอากระเป๋าที่เราฝากไว้ขึ้นมารอไว้ในห้องเรียบร้อยแล้ว
รายละเอียดที่พัก Mystays Ueno Inaricho จะอยู่ใน Part.2 นะครับ
กลับมาพักผ่อนกัน ตื่นมาอีกทีก็ 22.30น.หิวอีกแล้วครับ อยากกินราเมนร้อนๆ ไปเดินหาของกินกันครับ
**ถ้าใครพักที่เดียวกับผม ในจุดที่ผมวงกลมไว้ จะเป็นร้านราเมนเหมือนกันและอร่อยด้วยไม่ต้องเดินไกล
เดินไปเรื่อยๆ หาร้านถูกใจ
ผ่านร้านต่างๆมากมาย
เข้ามาหมดทุกร้านและ
มาจบที่ร้านนี้ครับ เกือบถึงสถานีอูเอโนะ
จะห้าทุ่มแล้วคนยังเยอะอยู่เลย
นั่งเคาน์เตอร์ดูวิธีการทำเกี๊ยวซ่าเพลินเลย
ร้านนี้เป็นอีกร้านที่ผมว่าจะกลับไปทานอีก ชอบๆ
มาห่อเกี๊ยวให้ดูกันตรงหน้าเลย
อร่อยๆ ครับ ถ้าไม่รู้จะทานอะไรก็แนะนำๆ
ระหว่างเดินกลับก็ต้องผ่านร้านสะดวกซื้อ 7eleven ,Lowson ,Family , MiniStop จะอดใจไว้ได้อย่างไรก็ต้องซื้อมาลองชิมกันอีก 5555
24.00น.กลับมาถึงโรงแรมก็มาจัดการซัก/อบ ผ้ากันหน่อย มาหลายวันไม่ต้องขนเสื้อผ้ามาเยอะ ใช้วิธีนี้เอาครับ เอาเนื้อที่กระเป๋าไว้ขนของกลับไทยดีกว่า
จบแล้วครับสำหรับ PART4. Kawaguchiko ทริป 2วัน1คืน ที่คาวากุจิโกะ คงมีประโยชน์กับคนที่จะเดินทางเอาไปปรับใช้กันนะครับ เดี๋ยว Part. ต่อไปมาลุยเที่ยวใน Tokyo บ้าง
กด Likeเพจ เพื่อติดตามรีวิวข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวได้ที่ https://www.facebook.com/PagesTumman
เดี๋ยว Part.5 ต่อไปมาลุยเที่ยวใน Tokyo กันครับ ไปย่านสุดฮิตทั้งหลาย และใครชอบกันดั้ม ชอบดราก้อนบอลอยากปล่อยพลังคลื่นเต่าซักครั้งในชีวิต และ ถ้าชอบเกมส์ขับรถแข่งเหมือนจริง ห้ามพลาด ...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น