PART1. เตรียมตัวไปเที่ยวญี่ปุ่น(Tokyo)ครั้งแรก




รีวิวที่1 นี้ผมจะขออธิบายวิธีการเตรียมตัวเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น ฉบับตั้มแมน กันครับว่าผมเตรียมตัวอย่างไรสำหรับมือใหม่แบบผม



- อยากไปญี่ปุ่นเพราะอะไร อันนี้สำคัญเลย อยากไปเจออะไรที่ประเทศญี่ปุ่น และ ช่วงที่อยากไปเป็นฤดูกาล / เทศกาล อะไรของประเทศญี่ปุ่น สำหรับผม อันดับที่1เลยคือไปหากันดั้ม อันดับ2 อยากไปเห็นภูเขาไฟฟูจิ อันดับ3 อยากไปสัมผัสหิมะสักครั้ง อันดับที่4 อยากนั่งรถไฟชินคันเซ็น ถ้าได้ความต้องการทั้งหมดแล้ว ก็เริ่มหาวันเวลาและเตรียมตัวรอโปรตั๋วเครื่องบินเลยครับ 

- ตั๋วเครื่องบิน คงต้องเป็นอันดับแรกสุดเลยก็ว่าได้ จะถูกจะแพงก็มีผลตรงนี้ด้วยเหมือนกัน ทริปนี้ผมได้โปรตั๋วเครื่องบิน Lowcost ของสายการบิน 
Scoot บินตรงไปลงที่สนามนาริตะ ได้เวลาตามที่ต้องการ ก็เลยตกลงเลือกสายการบินนี้ บางครั้งจอง 
Lowcost อาจจะไม่ได้ถูกอย่างที่คิด บวกนู่นนี่นั่น เพิ่มเงินอีกนิดอาจได้นั่ง Full Service ก็ได้นะครับ ถ้าลงสนามบินนาริตะ อยากเห็นภูเขาไปฟูจิ ขาไปให้จองที่นั่งฝั่งซ้าย ขากลับให้จองที่นั่งฝั่งขวา นะครับ (ราคาจะสรุปไว้ให้ช่วงท้าย) 


- สถานที่ท่องเที่ยว ได้จำนวนวันแล้ว ได้ตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว ก็มาดูเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวกันต่อเลย ว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่เราอยากจะไปมีอะไรบ้าง และอยู่ตรงไหนของญี่ปุ่น  ซึ่งหลักๆทริปของผมจะอยู่แถวๆ โตเกียว (TOKYO) เกือบทั้งหมด

- ที่พัก ผมเลือกที่พักแถว ย่านอูเอโนะ(
Ueno) สาเหตุหลักๆ ที่พักของผมจะเน้นอยู่ใกล้สถานีรถไฟสำหรับท่องเที่ยว เดินไม่ไกล ใกล้ร้านอาหาร และ ไป/กลับ สนามบินได้สะดวก ซึ่งย่านนี้ตอบโจทย์ของผมได้มากที่สุด ที่พักมีหลายราคา และ หลายรูปแบบ ลองหาจากหลายๆเวป แล้วเปรียบเทียบดูครับ (ราคาที่พักทั้งหมดจะสรุปให้ในท้ายรีวิว)

  



- Google map (อันนี้สำคัญมาก) ทำยังไงให้เที่ยวแล้วไม่หลง ต้องมีแผนที่ติดตัวครับ App Google Map มือถือทุกคนต้องมีอยู่แล้ว อันดับแรกให้สมัคร ID ของGoogle หรือ Gmail ก่อนครับ แล้วทำการ Login เข้าไป เราก็ค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวที่เราอยากจะไป (ตัวอย่าง) คลิ๊กขึ้นมาแล้วกด Favorite(รูปดาวสีเหลือง) ก็จะเป็นการปักหมุดสถานที่ท่องเที่ยวของเราไว้แล้ว โดยที่ไม่ต้องพกแผนที่ แผ่นพับ มากางให้เสียเวลา และยังสามารถคำนวณเวลา เส้นทางรถไฟ ที่เราจะไปยังจุดหมายให้เราได้ครบเลย แต่ ทำข้อมูลเตรียมใส่กระดาษไปอีกชุดนึงนะครับ จะได้ไม่ต้องมาเปิดหาหน้างานจะเสียเวลา (ศึกษาและลองเล่นให้ชินก่อนเดินทาง)


- การติดต่อสื่อสาร/อินเตอร์เน็ต มีแผนที่ Google แล้วแต่ไม่มีอินเตอร์เน็ตก็คงจะไม่ได้ สำหรับผมทริปนี้ ใช้ Pocket wifi หนึ่งเครื่องโดยใช้บริการของ Samurai Wifi กับ Netsim to fly ของ AIS กันเหนียวไว้ก่อนเกิด wifi ใช้ไม่ได้ขึ้นมาจะแย่



Pocket wifi ใช้ดีไม่มีปัญหาเลยสัญญาณดีตลอด โปรโมทให้นิดนึง Samurai Wifi ติดต่อผ่านFacebook แจ้งวัน เวลา ที่จะเดินทางแล้ว จนท.จะนัดวันมาส่งเครื่องและชำระเงินตอนรับสินค้า กลับถึงไทยก็มี จนท.มารับเครื่องคืน สะดวกดีครับ


Net SIM ผมใช้บริการ sim2flyจาก AIS 399บาท 8วัน ใช้งานได้ดีเลย สัญญาณ4G มาเต็ม แต่ห้ามดู VDO เด็ดขาดนะครับ เพราะเขาให้ใช้งานได้แค่ 3gb เท่านั้น เพียงพอในการโทร Line และลงภาพอวดเพื่อนใน Facebook 
 


ตั๋วรถ/ค่าโดยสาร ทำยังไงถึงจะเที่ยวได้ราคาถูกลง
ทริปผมเที่ยวตามตั๋วโปรโมชั่นครับ สิทธิพิเศษ สำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ โดยใช้ “JR Tokyo Wide Pass” มันดียังไงนะหรอ มันเป็นตั๋วเหมาจ่ายซึ่งใช้เดินทางโดยรถไฟของ JR แบบไม่อั้นในเขตภูมิภาคคันโต และข้างเคียง และยังรวมรถไฟไปเล่นหิมะ(GALA Yuzawa) กับ ไปชมภูเขาไฟฟูจิ(Kawaguchiko) ที่เราต้องการอีกด้วยครบเลย
ราคาตั๋วจะอยู่ที่ 10
,000เยน ใช้งานได้ 3วันต่อเนื่อง และได้ส่วนลดในการเที่ยวที่  GALA Yuzawa ด้วย *** ต้องใช้ติดต่อกัน 3วันนะครับ แล้วจะต้องระบุวันที่เริ่มใช้ด้วย วางแผนการเดินทางให้ดีๆ นะครับ ว่าจะใช้วันไหน และจะไปเที่ยวไหนถึงจะคุ้มค่า (ไม่ต้องซื้อจากไทยนะครับ ไปซื้อที่ญี่ปุ่นได้เลยเพียงโชว์ Passport ที่เคาน์เตอร์ ผมซื้อ Pass นี้ที่ JR Office Service Center ที่สนามบินนาริตะครับ

 ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.jreast.co.jp/e/tokyowidepass


- การเดินทาง ไป/กลับ สนามบิน  สำหรับผมพักแถว อูเอโนะ(Ueno) นั่งจากสนามบิน-สถานีอูเอโนะ โดยที่ไม่ต้องต่อรถหรือเปลี่ยนขบวน ผมเลือก Keisei Skyliner ที่เลือกสาเหตุหลักเลย เพราะรถไฟเขาเท่ห์มาก และถ้าซื้อตั๋ว ไป/กลับ คู่กับตั๋วรถไฟใต้ดิน 72ชั่วโมง (Tokyo Metro & Toei Subway)  ได้ราคาพิเศษ เลยใช้บริการของสายนี้ครับ 



ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/e-ticket/en/subway/index.html
-------------------------------------------------------------
มาต่อกันเรื่องรถไฟที่ Tokyo กันครับ ตอนที่ผมตั้งใจเริ่มหาข้อมูล พอเปิดมาเจอแผนที่รถไฟของ Tokyo ทำเอาผม งง เลยครับ แล้วตรูจะรอดไหมเนี่ย แต่พอเริ่มลงรายละเอียดก็เริ่มเข้าใจ และไม่ได้ยากเลย (ตามความเข้าใจของผมนะแบบง่าย) รถไฟที่เราจะใช้เที่ยวกัน มีสองสาย คือ JR (บนดิน) และ Tokyo Metro & Toei Subway(ใต้ดิน) สองสายนี้จะวิ่งในโตเกียวเหมือนกัน และบางสถานีจะเชื่อมติดกัน เกือบทั้ง Tokyo อยู่ที่ว่าสถานีไหนลงแล้วจะอยู่ใกล้จุดหมายปลายทางมากกว่ากัน 


 JR (บนดิน)

Tokyo Metro & Toei Subway(ใต้ดิน)
http://www.tokyometro.jp/en/subwaymap/index.html

รถไฟในญี่ปุ่นนี่ตรงเวลามากๆนะครับ แนะนำให้ไปถึงชานชลาก่อนเวลาซัก 10-15นาที เพื่อรอรถไฟ
ยกตัวอย่าง ถ้าตั๋วระบุเวลา 15.00น. นั่นหมายถึงประตูรถไฟจะปิดและออกจากสถานีเวลานี้เป๊ะนะครับ ไม่ใช่ว่ารถไฟมาถึงเวลา 15.00น.เพื่อให้เราขึ้น
หลายเว็ปหรือหลายกูรูก็จะมีวิธีที่แตกต่างกันไปในการศึกษาการเดินทาง ให้โหลด App บ้าง ให้เข้าไปเวปเช็คเที่ยวรถไฟบ้าง มาตามแบบฉบับของผมกันบ้าง

* ถ้าเดินทางในโตเกียว เช็คจาก Google เลยครับ
* ถ้าเดินทางออกนอกโตเกียว ให้ค้นหารถไฟที่เราจะเดินทาง/เวลา/และราคา ได้จาก http://www.hyperdia.com

---------------------------------------------------------------------
วิธี เดินทางในโตเกียว ฉบับตั้มแมน เทคนิคเล็กๆที่จะทำให้ไม่ขึ้นรถไฟผิด ผมจะยกตัวอย่าง1เส้นทางนะครับ โดยเส้นทางที่ผมจะเลือกเป็นตัวอย่างจาก สถานีอูเอโนะ (Ueno) ไป ตลาดปลาซึคิจิ (Tsukiji Market) มาดูวิธีการกัน

จากภาพที่ผมได้ Favorite เอาไว้

-1.ให้เข้าไปที่ Googlemap ให้คลิ๊กสถานที่ ที่เราได้ Favorite เอาไว้นะครับ (รูปด้านล่าง) สังเกตุดาวซ้ายมือจะเป็นที่เรา Favorite และด้านขวาจะเป็น สถานีอูเอโนะ(Ueno) แค่เอาเม้าส์ไปวางก็จะรู้เลยว่า มีรถไฟอะไรผ่านบ้าง  

-2.ให้เรา คลิ๊กขวา ที่สถานีอูเอโนะ(Ueno) เลือกคำว่า "เส้นทางจากที่นี่ "

-3.ให้เรามาเลือกสถานที่ปลายทางที่เราจะไปคือ 
ตลาดปลาซึคิจิ (Tsukiji Market) โดยคลิ๊กขวาที่คำว่า Tsukiji (หรือใกล้เคียง) แล้วเลือกว่า "เส้นทางมาถึงที่นี่"

-4. Google ก็จะให้เส้นทางมาสองทาง ให้คลิ๊กเข้าไปดูรายละเอียด จะบอกเลยว่ามีกี่เส้นทาง โดยรถไฟอะไรบ้าง ใช้จำนวนเงินกี่เยน ต้องเดินไกลแค่ไหน นั่งกี่สถานี
สมมุติ ผมเลือก 
Tokyo Metro & Toei Subway(ใต้ดิน) ตัว "H" คือสาย Hibiya Line ... 






-5. (***เน้นนะครับ) จะหลงไม่หลงก็ตรงนี้แหละ ให้คลิ๊กเข้าไปดู รายละเอียด จะบอกชื่อสายรถไฟนะครับ ให้ดูคำว่า "FOR" ให้ดีก่อนเสียบตั๋วเข้าสถานี นะครับ ไม่งั้นนั่งรถไฟย้อนไปย้อนมาเสียเงินหลายรอบแน่ๆ

- ภาพแรก จะเป็นขาไป  
Ueno-Tsukiji ให้สังเกตุที่คำว่า For Naka-Meguro 
ที่ผมขีดเส้นแดงไว้ จดไว้เลยนะครับ เพราะถ้าขึ้นผิดขบวน รถไฟจะวิ่งไปอีกทางนึงเลย





- ภาพที่สอง จะเป็นขากลับ Tsukiji-Ueno สังเกตุที่คำว่า For Kita-Senju ที่ผมขีดเส้นแดงไว้ ซึ่งจะต่างจากเที่ยวมา ลองทำการบ้านกันดูครับ แล้วจะเที่ยวในโตเกียวง่ายขึ้นครับ




สมมุติ ถ้าเดินลงไปแล้ว หาคำว่าFor Kita-Senjuไม่เจอ แสดงว่ามาผิดฝั่ง ให้ข้ามถนนมาลงสถานีที่อยู่อีกฝั่งนึง (ในกรณีที่สถานีไม่เชื่อมกัน)





ตัวอย่าง การบ้านที่ผมทำไว้ก่อนเดินทาง เผื่อมีประโยชน์ในการจดจำ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------

* ถ้าเดินทางออกนอกโตเกียว สามารถค้นหารถไฟที่เราจะเดินทาง/วัน/เวลา/และราคา ได้จาก http://www.hyperdia.com 

รถไฟญี่ปุ่นตรงต่อเวลามากๆ คลาดไปแค่ 4-5วินาที ก็อาจจะทำให้ขึ้นรถไม่ทันแล้ว hyperdia.com จึงเหมาะมากที่จะใช้ดูเที่ยวรถไฟ หรือ วางแผนล่วงหน้าได้ดีเลยทีเดียว (จากภาพด้านบน) ผมลองคำนวณจาก สถานีที่พักของผม ไปเล่นหิมะที่ Gala yuzawa ซึ่งต้องออกไปนอกเมืองไกลมากๆ ให้เรากรอก ชื่อสถานีต้นทาง และ ปลายทาง พร้อมทั้งใส่วัน/เวลา ที่เราจะเดินทาง แล้วกดค้นหาได้เลยครับ (ตัวอย่างผมเลือก 21/02/217 เวลา 14.00น.)  

ก็จะได้ รายละเอียดรถไฟช่วง วัน/เวลา/ราคา/ชื่อรถไฟที่เราจะต้องโดยสาร การทำงานก็จะคล้ายๆ Google แต่สามารถเช็ค วัน/เวลา ราคา ล่วงหน้าได้เลย ลองเล่นและศึกษาดูครับ
http://www.hyperdia.com
-----------------------------------------------------------------------------------------

การจองที่นั่งรถไฟล่วงหน้า Reserve Seat มีคนมาถามผม ทำไมต้องจองล่วงหน้า เคยไปไม่เห็นต้องจองเลย ไม่จองก็ได้ครับไปซื้อตั๋วเอาหน้างานเลยก็ได้ แต่ ในบางครั้งเที่ยวรถไฟที่เราต้องการจริงๆ อาจจะเต็ม และทำให้แผนการต่อรถไฟของเราเลื่อนออกไปหมดทุกอย่างก็ได้ ยิ่งถ้าเป็นช่วงเทศกาล วันหยุดยาวมีการใช้รถไฟเยอะมาก ถ้าไม่จองอาจมีโอกาสพลาดรอบเวลานั้นๆ หรือ แย่หน่อยอาจจะต้องยืนเป็นชั่วโมงๆ ถ้าเป็นขบวนชินคันเซ็นที่ใช้เวลานาน ยืนกันขาแข็งเลยครับ 

*** ถ้าคุณวางแผนเที่ยวลงตัวทุกอย่างแล้ว และไม่อยากพลาดเวลาที่คุณอยากเดินทางแนะนำให้เข้าไปจองครับ (ต้องชัวร์เรื่องวัน/เวลา 100%นะครับ) เพราะถ้าคุณจองแล้วไม่ไปรับตั๋วตามกำหนดโดนค่าปรับ หรือ อยากยกเลิกแล้วจองใหม่ ที่นั่งอาจจะไม่มีให้แล้วนะครับ
วิธีการจอง และ เลือกที่นั่ง ชินคันเซ็น
https://baannada.com/abouttrip/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%AF-j/

*** ซึ่งทริปนี้ผมจองทั้ง ไป/กลับ สองสถานที่คือ Gala Yuzawa กับ Kawaguchiko ลงเครื่องเสร็จก็เข้าไป เคาน์เตอร์ JR Office ยื่นใบจองให้ จนท.และทำการออกตั๋วให้เลย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการจองเลยแม้แต่บาทเดียว เพราะผมใช้บัตร JR Tokyo Wide Pass” ที่กล่าวไว้ตอนต้น 


จบแล้วครับ สำหรับการเตรียมตัวเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นทริปนี้ของผม ข้อมูลนี้คงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยกับคนที่จะเดินทางไป Tokyo นะครับ Part.2 ไปเริ่มเที่ยวกันครับ .........
กด Like เพจเพื่อติดตามรีวิวข้อมูล/สถานที่ท่องเที่ยวของผมได้ที่
https://www.facebook.com/PagesTumman

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางคร่าวๆ ที่ผมเตรียมตัวไป
ค่าเครื่องบินไป/กลับ เลือกที่นั่ง ประกันภัย ภาษี เพิ่มน้ำหนักกระเป๋า  =  11,400บาท/คน
ค่าที่พัก 8คืน = 21,879 บาท   
JR TOKYO WIDE PASS –    10,000x2 = 20,000Y
Skyliner+Subway ไป/กลับ – 5,400x2 = 10,800Y

ข้อมูลที่ผมดูก่อนไป วิธีการซื้อตั๋วจากตู้ การเดินทาง ที่ท่องเที่ยว 
ผมหาดูจาก Youtube ครับ  


https://youtu.be/SnYvrnX7B88?list=PLVdmTN8wFmQ7gsoIDvIYOLdW1on6ifNRy

https://youtu.be/NNsh9uND7Ok

https://youtu.be/B-8qf4VEze0

https://youtu.be/K9duk6WtNEY















ความคิดเห็น