ทริปมัลดีฟส์ กับสองที่พักคลับเมดมัลดีฟส์ (Club Med Maldives)

มัลดีฟส์ ทริปในฝันของใครหลายคน และเป็นสถานที่นึงที่ตั้งใจไว้ว่า ครั้งนึงในชีวิตต้องขอไปซักครั้ง ทริปนี้ผมเลือกใช้บริการ ของ Club Med Maldives รีสอร์ทหรู บริการแบบ All Inclusive จ่ายครั้งเดียวจบ ถ้าใครคิดจะเดินทางลองเก็บไว้เป็นตัวเลือกในการเดินทางครับ



รีวิวนี้ไม่ใช่รีวิวที่ละเอียดที่สุด แต่จะมาบอกเล่าเรื่องราวข้อมูลการเดินทางที่ตัวเองได้ไปมา และจะเป็นความคิดเห็นส่วนตัวเกือบทั้งหมด

เพื่อนๆถามผมมาเยอะมาก กับทริป Maldives งั้นมาเริ่มตั้งแต่การจองของผมเลยนะครับ 

1. หาที่พักที่ชอบ โดยส่วนตัวผมกับแฟน จะชอบที่พักที่ดูใหม่และโมเดิร์น ค้นหาใน Google ที่พัก  Maldives จะขึ้นมาเยอะมาก แต่ที่คนไทยชอบไปก็จะมีอยู่ไม่กี่ที่ 
      1.1 Safari Island resort
     1.2 Gili Lankan Fushi
     1.3 Club med Kani
     1.4 Club med Finolhu
     1.5 Centara Rasfushi
     1.6 Thulhagiri island resort 
     1.7 Meeru Island Resort & Spa
     1.8 Centara Grand Island Resort & Spa
     1.9 DUSIT THANI MALDIVES
โดยผมก็หาข้อมูลรูปห้องพัก สถานที่โดยรอบ สภาพทะเลบริเวณห้องพัก ดูรีวิวจากหลายๆที่ เพราะโดยส่วนตัวผมชอบที่พักที่เป็นทรายเยอะกว่าปะการัง ไม่ค่อยสนโลกใต้ทะเลซักเท่าไหร่ เพราะถ้าน้ำตื้นผมว่าคงสู้ที่ไทยไม่ได้แน่นอน พอได้แล้วก็ค่อยๆตัดออก

ทำความรู้จักรายละเอียดแพคเกจของมัลดีฟส์ก่อนจอง แยกได้ประมาณนี้
* All Inclusive รวมที่พัก เรือรับ/ส่งจากสนามบิน อาหารทุกมื้อ รวมเครื่องดื่ม เบียร์ ไวน์ เครื่องเล่นทุกชนิด ยกเว้นเครื่องเล่นที่มีน้ำมันมาเกี่ยวข้อง
Full board รวมที่พักและอาหารทุกมื้อ ไม่รวมเครื่องดื่ม
Half board รวมที่พัก อาหารเช้า/เย็น ไม่รวมเครื่องดื่ม
*Bed & Breakfast รวมที่พักและอาหารเช้าเท่านั้น ไม่รวมมื้ออื่นๆ และเครื่องดื่ม


มัลดีฟส์ หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐมัลดีฟส์ เป็นประเทศที่มีพื้นที่ประกอบด้วยหมู่เกาะปะการังจำนวนมากที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย เมืองหลวงคือเมืองมาเล่ เป็นเมืองหลวงที่เล็กที่สุดในโลก
สนามบินคือ สนามบินมาเล่ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติเวลานา

หมู่เกาะที่ผมหาข้อมูลไว้ จะมีอยู่ 2หมู่เกาะ Nort male AToll และ Baa Atoll

Nort male AToll  : North male Atoll ประกอบด้วยเกาะย่อยๆ 50เกาะ แถมถูกยกย่องให้เป็นหมู่เกาะที่ดีที่สุด ติดอันดับ3ของโลก Atoll จะอยู่ใกล้สนามบิน เดินทางง่ายด้วยสปีดโบ๊ด
 Baa Atoll : ต้องเดินทางด้วย sea plane และโลกใต้ทะเลที่นี่เขาว่าสวยมาก ใครชอบปลาเยอะๆ ปะการังสวยๆ ก็คงต้องเป็นหมู่เกาะแถวนี้ 

2.การเดินทางไปที่พัก เมื่อลงเครื่องที่สนามบินแล้ว จะมีอยู่3แบบในการเดินทางไปที่พัก 
     2.1 สปีดโบ๊ด (speed boat)
     2.2 เครื่องบินน้ำ (sea plane)
     3.3 เครื่องบินภายในประเทศ ( domestic )
ดูที่พักที่ตัวเองอยากไปว่าต้องเดินทางด้วยวิธีใด และใช้เวลานานเท่าไหร่ และเช็คด้วยว่า มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมไหม รีสอร์ทบางแห่งไม่รวมค่าเดินทางไปยังรีสอร์ท และ บวกค่าใช้จ่ายเพิ่ม

3. เช็คราคาที่พัก ตามช่วงเวลาเดินทาง เพราะแต่ละช่วงค่าที่พักจะแตกต่างกัน คัดที่เราชอบๆมาเทียบราคา เทียบค่าใช้จ่าย แล้วค่อยๆตัดออก
เมื่อดูเวปชวนเชื่อ เช็คให้ดีเข้าและไปอ่านให้ละเอียด ใครที่ไปมัลดีฟส์เชื่อได้ว่าต้องอยาก พักวิลล่ากลางมหาสมุทร ราคาที่ลงๆนั้น มันยั่วใจเหลือเกิน แต่พอเข้าไปดูราคาส่วนมาก จะพักบนหาด ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน และเป็นห้องราคาเกือบต่ำสุดแทบทั้งนั้น 
(ความคิดเห็นส่วนตัว) ได้ราคาถูกแต่ต้องพักบนหาดห้องเก่าๆ เก็บเงินเที่ยวในไทย หลีเป๊ะ ภูเก็ต ดีกว่าครับคุ้มค่ามากกว่า แล้วรีวิวใน Pantip ที่บอกราคาถูกเท่านั้นเท่านี้ก็มาได้ เข้าไปอ่านดีๆ จะพักบนฝั่ง เซฟค่ากิน ขนของไปกินเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่ความชอบของแต่ละคนนะครับ ลองตัดสินใจดู


4.จองที่พัก  เมื่อทำการเลือกทุกอย่างได้แล้ว สรุปที่พักได้แล้ว ก็เริ่มติดต่อที่พักและเช็คราคา 
     4.1 เช็คราคาจากที่พักโดยตรง 
     4.2 เช็คราคาที่พักจาก เอเจนซี่ 
เช็คราคาจากทั้งสองที่แล้ว ผมเลือกทำการจองผ่าน เอเจนซี่ เพราะราคามาเท่ากันเป๊ะ แถมจองผ่านเอเจนซี่ยังได้ส่วนลดและของแถมอีก ผมได้กระเป๋ากันน้ำ 2ใบ ได้แท็กกระเป๋า maldives 2ชิ้น กรอกใบ ตม. ขาเข้ามาให้ แถมเอเจนซี่ยังจัดการเรื่องติดต่อจองและสำรองห้องพักให้ทั้งหมดในราคาถูกกว่าจองเองนิดหน่อย (หลังหักส่วนลด) สบายเลย 




5.ขั้นตอนการจอง เมื่อเรากำหนดวันที่จะเดินทางได้แล้ว จึงติดต่อเอเจนซี่ เพื่อให้เอเจนซี่ทำการสำรองห้องพักให้ เราจะมีเวลาภายใน 3วัน ในการซื้อตั๋วเครื่องบิน พอได้ตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว จึงโอนเงินชำระค่าที่พัก พร้อมส่งเอกสารเที่ยวบินให้ทางเอเจนซี่ แล้วเอเจนซี่ก็จะส่งเอกสารการจองทั้งหมด, ใบเสร็จสำรองที่พักมาให้เรา และเอเจนซี่จะคอยไลน์แจ้งและให้คำแนะนำกับเราจนถึงวันเดินทาง บริการดีจริงๆ แค่นี้ก็พร้อมเดินทางแล้วครับ

ผมเดินทางด้วย บางกอกแอร์เวย์  บินตรง ใช้เวลาประมาณ 4ชั่วโมงครึ่ง
ใครที่ชอบที่นั่งวิวแบบผม ที่นั่งจะเป็น แถวที่ 18A 18B นะครับ
แต่ๆๆๆ ที่นั่งฝั่งซ้ายแดดเข้าตลอดการเดินทาง แนะนำให้นั่งฝั่งขวาดีกว่าครับ เปิดกระจกได้ตลอด

การเดินทาง ที่ผมทราบจะมีอยู่ 3 สายการบินนะครับ
1. บางกอกแอร์เวย์
2.แอร์เอเซีย
3.ศรีลังกาแอร์ไลน์

บางกอกแอร์เวย์ (full service) ขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ / แอร์เอเซีย (low cost) ขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง ค่าโดยสาร แล้วแต่ใครจะจองได้ราคาเท่าไหร่นะครับ 2สายการบินนี้ ข้อดี คือ  เป็นเที่ยวบินที่บินตรง (ไม่ต้องต่อเครื่อง) เวลาของเที่ยวบินจะใกล้เคียงกันมาก คือไปเช้า กลับ เที่ยง ข้อเสียคือ เครื่องเที่ยวบินกลับ จะกลับตอนเที่ยง ทำให้เราต้องตื่นเช้าและออกจากที่พัก ประมาณ 9โมง-10โมง ใช้เวลาวันสุดท้ายไม่ค่อยคุ้ม
***บางกอกแอร์เวย์ ชอบออกโปรมาช่วงต้นปี ใครจะไปคอยส่องไว้นะครับ ไป/กลับ รวมภาษีแค่ 7พันกว่าบาท

ศรีลังกาแอร์ไลน์  (full service) ขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ ค่าโดยสาร แล้วแต่ใครจะจองได้ราคาเท่าไหร่นะครับ ข้อดี คือ เที่ยวบินขากลับ จะบินกลับในช่วงค่ำ ทำให้เราใช้บริการรีสอร์ทที่พักได้คุ้มค่ามากที่สุด และเรือมาส่งที่สนามบินออกจากเกาะประมาณ 5โมงเย็น  ข้อเสียคือ ต้องเสียเวลาต่อเครื่องที่ศรีลังกา 

รายละเอียดเล็กๆ ก่อนเดินทาง
- การเงิน
ใช้ US dollar และ Credit card หรือ ใช้เงินของ มัลดีฟส์
- โทรศัพท์/อินเตอร์เน็ต
สามารถเปิดโรมมิ่งมาจากไทย (ราคาค่อนข้างสูง) หรือ ซื้อ sim ที่สนามบิน แต่อาจไม่จำเป็นเลย เพราะมี Wifi สนามบินฟรี และ รีสอร์ททุกที่มี wifi free ให้ใช้อยู่แล้ว
- สิ่งของที่ห้ามนำเข้า
วัตถุที่สื่อถึงการต่อต้านศาสนาอิสลาม / หนังสือ สิ่งพิมพ์ลามก / แอลกอฮอล์และเหล้า / เนื้อหมู  / ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากหมู
- ไฟฟ้า
ใช้ไฟ 220V เหมือนเมืองไทย แต่หัวปลั๊กไม่เหมือน ให้เตรียม Universal Adaptor และ ปลั๊ก3ตา ติดไปด้วย
- สภาพอากาศ

ฤดูฝน มัลดีฟส์ อยู่ในช่วงเดือน พฤษภาคม-พฤจิกายน ฝนตกมากในช่วงเดือน พฤษภาคม-สิงหาคม
x


พร้อมแล้วมาเริ่มเดินทางกันครับ


เช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมิ มาเร็วหน่อยก็ดีนะ เพราะทุกเที่ยวบินเช็คอินพร้อมๆกันหมดเลย แถวยาวอยู่



ข้อดีของสายการบินนี้คือเราสามารถใช้บริการเล้าจ์ได้ ไม่ว่าจะบินในประเทศหรือระหว่างประเทศ
แต่พอผมกลับมาเค้าก็ประกาศเปิดเล้าจ์ใหม่ ที่สวย และ ดูไฮโซ มากๆ 
และสิ่งที่เขาร่ำลือนั้น คือข้าวต้มมัดในตำนาน มาแล้วก็ต้องลอง พอทานเสร็จ 
ก็เหลือเวลาให้ทำธุระส่วนตัวก่อนที่จะถึงเวลาขึ้นเครื่อง 




บางกอกแอร์เวย์ ต้องนั่งรถบัสต่อมายังเครืื่องบิน ออกจากรถมาหัวกระจุยกระจายกันทุกคน ลมแรงมาก




เครื่องบินขนาดไม่ใหญ่มาก นั่ง 3 3 

 
 
ตอนแรกกะว่าเครื่องไม่ใหญ่ ต้องนั่งแล้วอึดอัดขาติด เมื่อยแน่ๆ
แต่ผิดคาด ชั้นประหยัด นั่งสบาย เบาะกว้างเหยียดขาได้เลย

เครื่องออกตรงเวลาเป๊ะ เริ่มเดินทางแล้ว

ถึงเวลาอาหาร ใครที่จองโดยตรงกับสายการบิน สามารถเข้าไปเลือกที่นั่ง และ อาหารได้ในเว็บไซน์ของบางกอกแอร์เวย์นะครับ
ถ้าเลือกอาหารไปก่อน แอร์จะมาเสริฟให้ก่อนเลย





4ชั่วโมง แป๊ปเดียวถึงแล้ว
สนามบินมาเล่ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติเวลานา

เครื่องที่เรานั่งมา
เครื่องแอร์เอเซีย ที่เวลา ไป/กลับ ใกล้เคียงกันมากๆ 

สนามบินมาเล่ เป็นสนามบินเล็กๆ เล็กม๊ากกก เดินทางง่ายไม่มีหลง
รับกระเป๋าเสร็จ จะมี จนท.มายืนถือป้ายรอรับแขกของตัวเอง ซึ่งเยอะมากๆ แต่ถ้าไม่เจอก็ให้เดินไปที่ เคาน์เตอร์ของที่พักที่เราจองมา 
ข้อแนะนำ ใครที่รับกระเป๋าออกมาแล้ว แนะนำให้อย่าเพิ่งไปติดต่อเคาน์เตอร์ที่พัก ให้รีบเข้าห้องน้ำจัดการธุระส่วนตัวให้เสร็จก่อน จะซื้อ sim โทรศัพท์ก็ให้รีบซื้อ (ทำด้วยความรวดเร็วนะ) แล้วค่อยไปติดต่อเคาน์เตอร์ที่พัก ไม่งั้นจะโดนเรียกให้เตรียมขึ้นเรือเลย ไปไหนไม่ได้ จะแว๊ปไปซื้อน้ำยังไม่ได้เลย ทุกอย่างจะดูรีบๆไปหมด ....  


จากสนามบิน ข้ามฝั่งมานิดเดียวก็ตาลุกวาวทันทีด้วยสีของน้ำทะเล 

แค่ท่าเรือก็กดถ่ายรูปกระจุยกระจายแล้ว




ได้เวลาลงเรือ จนท.ก็จะพาเรามาลงเรือส่วนตัวของทางรีสอร์ทที่เราจองไว้
แต่ถ้าใครต้องเดินทางด้วย Sea plane จะต้องนั่งรถต่อไปที่สนามบินท่าของ Sea plane

ที่พักที่ผมเลือกและจะรีวิวทั้งสองที่ คือ Club Med Finolhu และ Club Med Kani ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กัน เดินทางง่ายๆ ด้วย speed boat

ใช้เวลาเดินทางด้วย speed boat ประมาณ 30-40นาที ก็ถึงแล้ว
และ Club Med ทั้งสองที่ใช้เวลานั่งเรือข้ามไปหากันแค่ 10นาที



วันที่ผมมาถึง เมื่อวานเพิ่งเป็นวันสุดท้ายที่ฝนตกต่อเนื่องหลายวัน ทำให้คลื่นแรงและสูงมากๆ 
เคยนั่งสปีดโบ๊ดที่ไทยมาหลายเกาะ ที่บอกโหดๆ มาเจอที่นี่พี่ไทยดูเป็นเด็กน้อยไปเลย


ที่พักมัลดีฟส์ คลับเมด ฟิโนลูห์ มัลดีฟส์ (Club Med Finolhu Maldives)
เข้าไปดูรีวิวได้ตาม Link หรือ คลิ๊กที่ภาพได้เลยครับ

ที่พักที่แรกของผม คือ คลับเมด ฟิโนลูห์ มัลดีฟส์ (Club Med Finolhu Maldives)  3วัน 2คืน 
รีสอร์ทระดับ 5ดาว ในเครือ คลับเมด ให้บริการแบบ Premium All Inclusive และให้บริการสุด Exclusive   
*** เด็กอายุ 12ปี ขึ้นไป ถึงอนุญาตให้ขึ้นเกาะ
*** อายุ 15ปี ขึ้นไป ถึงอนุญาตให้พักห้องกลางน้ำ เป็นรีสอร์ทที่เน้นความเป็นส่วนตัวและเหมาะกับคู่รัก เพราะทั้งรีสอร์ทมีแค่ 52Villas ห้องพักดูอลังการ ดีไซน์ทันสมัย ห้องพักสามารถเลือกวิวได้ว่าชอบแบบ Sunrise หรือ Sunset ถ้าเป็นวิว Sunset (อาทิตย์ตก) ก็จะแพงขึ้นมาอีกหน่อยและสามารถลงทะเลได้จากหน้าห้องพัก  พร้อมทั้งมีสระว่ายน้ำส่วนตัวทุกห้อง ที่สำคัญคือมีบัตเลอร์ส่วนตัวที่ทำหน้าที่ดูแลเรา  
** สำหรับคลับเมด ฟิโนลูห์ มัลดีฟส์ (Club Med Finolhu Maldives) สำหรับผมไม่มีส่วนที่จะตำหนิเลยครับ ทั้งบริการ ทั้งรอยยิ้ม ทั้งการต้อนรับ สภาพแวดล้อม สภาพห้อง และความเป็นส่วนตัว ให้5ดาวเต็มตามที่เขาว่ามาเลยครับ ประทับใจสุดๆ




ที่พักอีกที่นึง คือ คลับเมด คานิ มัลดีฟส์ (Club Med Kani Maldives)
เข้าไปดูรีวิวได้ตาม Link หรือ คลิ๊กที่ภาพได้เลยครับ



ผมพักที่นี่อีก 1คืน ด้วยความอยากลอง คลับเมดคานิ (Club med Kaniรีสอร์ทระดับ 4ดาว ในเครือคลับเมด ให้บริการแบบ All Inclusive เป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทที่คนไทยฮิตเดินทางมา รีสอร์ทนี้มีบริการที่ครบครัน สะดวกสบาย กิจกรรมที่อัดแน่น มีเจ้าหน้าที่คนไทย จนท.น่ารักทุกคน สำหรับห้องพัก รีสอร์ท มีทั้งห้องพักกลางน้ำ และห้องพักบนหาด ราคาก็จะแตกต่างกันออกไป 
ห้องพักมี 3 ประเภท 
*ห้องพักบนหาด Club room ห้องพักราคาถูกที่สุด เด็กสามารถเข้าพักได้อยู่บริเวณสวน 
**ห้องพักหน้าหาด Deluxe room ห้องพักนี้หันหน้าหาทะเล แต่ก็ห่างทะเลพอสมควรเลย 
***ห้องบนทะเล Overwater Suite ห้อง type สูงสุดของที่นี่ ห้องพักมีระเบียงพร้อมบันไดให้เดินลงเล่นน้ำทะเล ห้องจะใหญ่กว่า มีห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องแต่งตัว และ ห้องน้ำกว้าง
สำหรับผู้ที่เข้าพัก  Overwater Suite จะมีบริการพิเศษเพิ่มเติม คือโซน Overwater ที่คนที่พักโซนอื่นจะเข้ามาใช้บริการไม่ได้ และสามารถใช้บริการ มันตา เลาน์จ (Monta Lounge) บาร์ริมทะเล บริการ เครื่องดื่ม ไวน์ แชมเปญ และ อาหารว่างบริการฟรี ตลอดวัน และ ในตอนเช้า ใครทีไม่อยากเดินไปทานที่ห้องอาหาร ก็สามารถสั่งอาหารมาทานที่ห้องพักได้ 

** สำหรับคลับเมดคานิ (Club med Kani) ข้อที่อยากติ คือไม่มีความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัวเท่าไหร่ บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ริมหาดภูเก็ต (นักท่องเที่ยวเยอะ) ห้อง Overwater ที่เข้าพักค่อนข้างเก่า แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าโอเคนะครับ แต่ถ้าให้พักที่เดียว 3วัน2คืน ผมขอเลือกที่อื่นดีกว่า .... 

วันกลับ ต้องออกจากรีสอร์ทตั้งแต่เวลาประมาณ 9:45น. เพื่อที่จะขึ้นเครื่องเวลาเที่ยง (12.45น.)
*แนะนำ ถ้าใครกลับมาถึงสนามบิน อยากถ่ายรูป อยากกินอะไร หรือซื้อของบริเวณด้านนอก อย่าเพิ่งเข้าตัวสนามบิน เพราะถ้าเข้ามาเช็คอินโหลดกระเป๋าแล้ว จะออกมานอกตัวสนามบินเหมือนที่ไทยไม่ได้ 


ข้างในสนามบินขากลับ มี duty free ร้านของกินอยู่ 2-3ร้าน 




ได้เวลาก็ลงมาชั้นล่างสุด เพื่อรอขึ้นเครื่อง 

ได้เวลากลับ แต่ยังไม่อยากกลับเลย  



ขึ้นเครื่องแล้วก็ยังอดเก็บภาพไม่ได้ สวยประทับใจมากๆ





อาหารบนเครื่องขากลับ อร่อยดีครับ 








ถึงไทยตามเวลา 19.30น.  





จบแล้วครับสำหรับ รีวิวทริปมัลดีฟส์ กับสองที่พักคลับเมดมัลดีฟส์ (Club Med Maldives)  
ข้อมูลที่ทำขึ้นมาคงจะพอมีประโยชน์ กับผู้ที่จะเดินทางนะครับ แล้วเจอกันใหม่ทริปต่อไปครับผม ....

สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้นะครับ
**  ค่าที่พัก 4วัน3คืน All Inclusive 2 คน                      = 156,560บาท
** ค่าเครื่องบินบางกอกแอร์เวย์ ไป/กลับ2 คน   =   27,580บาท 
** ค่าเครื่องเล่น Parasailing , Jetskei  2คน               =     9,500บาท
** ค่า Lobster                                                   =      2,475บาท



ชอบการเดินทาง Likeเพจ เพื่อติดตามรีวิวข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวได้ที่ https://www.facebook.com/PagesTumman











   






























   

ความคิดเห็น