เตรียมตัวเที่ยว สวิตเซอร์แลนด์
ใครที่คิดว่าสวิตเซอร์แลนด์ เดินทางยาก ลบความคิดนั้นออกให้หมด แล้วมาเตรียมตัวกันเลย ทริปนี้ผมเตรียมตัวก่อนเดินทางทั้งหมดแค่ 2อาทิตย์ เพราะลุ้นอยู่ว่า Visa จะผ่านไหม พอรู้ว่า Visa ผ่านก็เตรียมตัวเดินทางกันเลย
0. จองตั๋วเครื่องบิน ตามชอบเลยครับ จะบินตรง หรือต่อเครื่อง สวิตเซอร์แลนด์ จะมีสองสนามบิน คือ เจนีวา กับ ซูริค แผนการเดินทางจะเริ่มต้นก็ตรงนี้ ดูว่าเครื่องเราไปลงที่สนามบินไหน
1.วางแผน หาสถานที่เที่ยว เราอยากเดินทางไปที่ไหนบ้าง (เอาที่หลักๆ) ให้บันทึกตำแหน่งทั้งหมดลงใน แผนที่ Google ปักหมุดทั้งหมดให้เรียบร้อย
(เคยรีวิววิธีไว้ในเตรียมตัวเที่ยวญี่ปุ่นแล้วครั้งนึงวิธีเหมือนกัน http://www.tumman.com/2017/03/tokyo.html )
2. วางแผนหาที่พักทั้งหมด สำหรับการเลือกที่พักของผมหลักๆ ต้องอยู่ใกล้สถานีรถไฟ หรือ รถบัส เพื่อง่ายต่อการเดินทาง เพราะเดินทางเองต้องแบก ต้องลากกระเป๋า เองทั้งหมด ถ้าย้ายที่พักบ่อยๆ กระเป๋าใหญ่ ไม่ใช่เรื่องสนุกแน่
*** การเลือกห้องพัก ดูให้ดี ให้เข้าไปดูในรายละเอียดในห้องพักว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกครบตามความต้องการของเราหรือเปล่า เช่น เป็นห้องน้ำแยก หรือ ห้องน้ำรวม ภายในห้องพักมีกระติกน้ำร้อนให้หรือเปล่า ส่วนแอร์จะมีเป็นบางโรงแรม (ส่วนมากจะไม่มี) อากาศเย็นสบายอยู่แล้ว
3.วางแผนเช็คเส้นทาง การเดินทางทั้งหมด มายังที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมด หลักๆการเดินทางที่ สวิสเซอร์แลนด์ ผมเลือกใช้แผนที่จาก Google map และ App SBB MOBILE ครบจบทุกปัญหาเดินทาง โหลดติดโทรศัพท์ไว้ได้เลย ไม่ต้องไปโหลดหลายแอฟให้วุ่นวาย ที่ให้ใช้สองตัวนี้คู่กัน เพราะขั้นตอนแรกดูจาก : App SBB MOBILE แล้วว่าขึ้นที่นี่ลงที่นี่ แต่จะไม่เห็นภาพรวมเหมือน Google ให้มาเปิด Google ดูอีกทีว่าตรงกันไหมกับที่เราจะเดินทาง ซึ่ง Google ก็จะบอกคล้ายๆกัน แต่ไม่ได้บอกราคาค่าโดยสาร
: App SBB MOBILE ถ้าอยู่ในไทยแล้วลองเล่นก็อาจจะงงอยู่ เพราะต้องนั่งกรอกตำแหน่งต้นทางและปลายทาง แต่เมื่อไปอยู่ในประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ อะไรๆ จะง่ายขึ้นเพราะบอกตำแหน่งที่เราอยู่ปัจจุบัน แค่คีย์ว่าจะไปไหน จะบอกหมดว่าต้องเดินกี่นาที ลงสถานีไหน มีรอบเวลากี่โมงบ้าง ต่อรถไฟที่ Platform ที่เท่าไหร่ ค่ารถไฟเท่าไหร่
*** เมื่อต้องต่อรถไฟ ก่อนลงรถซัก 2-3นาที ให้เปิด SBB MOBILE เช็ค Platform ที่จะต่อรถไฟทุกครั้ง เพราะอาจมีการเปลี่ยน Platform กระทันหัน และเมื่อลงรถไฟมาให้รีบดูจอที่ Platform ที่เราลง ว่าใช่ Platform นั้นหรือไม่ เพราะบางเที่ยวเราใช้เวลาในการต่อรถ แค่ 3-5นาที และต้องเดินลากกระเป๋าเปลี่ยน Platform มันจะไม่ทันเอา เพราะถ้าเราพลาดเที่ยวรถไฟนั้นๆ อาจจะต้องใช้เวลารอ 30นาที หรือ 1ชั่วโมงเลยนะ
4. วางแผน เริ่มลงรายละเอียด ว่าสถานที่เที่ยวที่เราจะไปนั้นเดินทางท่องเที่ยวยังไง ต้องต่อกระเช้า หรือ รถไฟ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ แถวๆนั้นมีร้านอาหารอะไรบ้าง เปิด/ปิด กี่โมง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็มาจาก Google และ เว็บไซต์ของสถานที่เที่ยวนั้นๆ
5. วางแผนเริ่มจองตั๋ว จากข้อ3 เมื่อเรารู้เส้นทางทั้งหมดแล้ว และใช้ App SBB MOBILE คำนวนค่าโดยสารทั้งหมด ก็จะรู้แล้วครับว่า ค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมด ประมาณเท่าไหร่ เราก็มาตัดสินใจกันว่า จะเช่ารถ จะซื้อพาส หรือ จะไม่ซื้ออะไรเลย ซึ่งในทริปนี้ผมเลือกใช้ SWISS TRAVEL PASS แบบ 15วัน แต่ผมอยู่ใน สวิสเซอร์แลนด์ทั้งหมดแค่ 11วัน แต่ลองคำนวนแล้วก็ยังคุ้มอยู่
สำหรับใครที่เดินทางเยอะ แนะนำให้ซื้อ SWISS TRAVEL PASS เพราะชีวิตจะดีขึ้นเยอะ ขึ้นรถไฟ ขึ้นรถบัส ลงเรือ รถราง เอาง่ายๆคือ มีใบนี้แล้วในสวิสเซอร์แลนด์ คุณจะไม่มีค่าใช้จ่ายเรื่องเดินทางจุกจิกอีกเลย ไม่ต้องมากดซื้อตั๋วทุกสถานี แถมสถานที่ท่องเที่ยว ยังได้เป็นส่วนลด 50% แถมบางที่ก็ขึ้นฟรี อีกด้วย ถ้ามองรวมๆ ลดไปเยอะมากๆ นะครับ คุ้มค่า PASS แน่นอน
6. Internet ซิมการ์ดที่ผมใช้ ผมใช้ Sim to fly ตัวเดียวจบครบไม่มีปัญหา ยอดเขาสูงเกือบ 4,000m สัญญาณ 4g ยังมาเต็ม แนะนำให้ซื้อติดตัวไว้นะ เพราะถ้าใครไปหวังน้ำบ่อหน้า ซื้อ Sim ในประเทศนั้นๆใช้ แล้วเกิดปัญหาเหมือนผม iphone ผมใส่ Sim ต่างประเทศไม่ได้เหมือนมันล็อคสัญญาณไว้จะลำบากเอา จะใช้ Pocket WiFi ก็แพงเกิน Sim to fly ตัวเดียวจบครับ ....
แค่นี้ก็คงพร้อมเดินทางกันแล้วครับ
แต่จะมาบอกเล่า ทริกเล็กๆ ในการใช้ชีวิตในต่างแดน ให้ฟังกันน่าจะเป็นประโยชน์กับนักเดินทางบ้างไม่มากก็น้อย
- SWISS TRAVEL PASS เมื่อซื้อจากไทยไป เอเจนซี่จะบอกคุณว่า ใช้ได้เลยชัวร์ ไปถึงไม่มีปัญหา อย่าไปเชื่อนะ ไปถึงสนามบินให้ไปที่ Shop SBB เพื่อไปประทับตรา และ Activate ก่อนนะครับ และกรอกหมายเลข Passport กับ เซ็นชื่อ ให้เรียบร้อย
- SWISS TRAVEL PASS เมื่อมีแล้ว เดินขึ้นรถไฟ ขึ้นรถบัสได้เลย ไม่ต้องกังวล *ขึ้นรถบัสแค่โชว์ SWISS TRAVEL PASS ให้คนขับดู *ขึ้นรถไฟ จะมีนายตรวจเดินตรวจบัตรโดยสารก็แค่ยื่น SWISS TRAVEL PASS ให้นายตรวจดู (รถไฟบางขบวนไม่มีนายตรวจมาเดิน)
- จุดเสี่ยงที่อาจไม่ปลอดภัย ที่มีพวกผิวดำ หรือ แขกขาว Luzern , Zürich คือสถานีรถไฟหลัก ด้านหลังหรือด้านข้างที่เป็นสถานีรถบัสนะ ถ้าไปก็ระวังๆ เอาไว้ก่อน
- ก่อนเดินทางให้เช็ค วันเปิด/ปิด ด้วยนะ เพราะบางสถานที่ท่องเที่ยวปิดทำการบางฤดู เข้าไปเช็คที่เว็ปไซต์ของสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ
- สถานที่ช๊อปปิ้ง ร้านค้า วันเสาร์จะปิดเร็วมากประมาณ 16.00น. ก็ปิดแล้ว วันอาทิตย์ร้านค้าปิดหมด เปิดอยู่ไม่กี่ร้าน ที่ถามมาเขาบอกวันอาทิตย์ถือเป็นวันครอบครัว
- ร้านค้าเกือบทุกร้าน ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ รับบัตรเครดิตจ่ายแทนเงินสดได้เกือบทั้งหมด
- น้ำดื่ม : ราคาแพงมาก 60-180บาท ถ้าซื้อกินตลอดทั้งทริปไม่ไหวแน่ เมื่อไปถึงหลายคนต้องซื้อน้ำกินอยู่แล้ว กินเสร็จให้เก็บขวดไว้นะครับ แล้วใช้วิธีเติมน้ำเอา ในเมือง และนอกเมือง จะมีเหมือนน้ำพุ เป็นน้ำสาธารณะอยู่แล้ว เติมได้เลยครับ ไม่ต้องอาย เพราะคนที่นี่เขาก็กินกัน และ ดูให้ดีว่า ของคน หรือ ของสัตว์นะ
ปล.น้ำเปล่าที่นี่จะมีสองแบบคือ แบบธรรมดาที่เรากินกัน กับ แบบซ่าคล้ายๆ โซดา ดูให้ดีก่อนซื้อด้วยนะ
- น้ำดื่มจากห้องพัก : ใครไปเที่ยวแล้วงงว่าทำไมในห้องพักไม่มีน้ำดื่มบริการ เพราะที่นี่เขาให้ดื่มน้ำจากก๊อกน้ำในห้องพักได้เลยครับ วิธีคือ เปิดน้ำเย็นจากก๊อก ต้องน้ำเย็นนะครับ น้ำร้อนกินไม่ได้นะ เปิดน้ำทิ้งไว้ประมาณ 30วิ อุณภูมิน้ำจะค่อยๆ เย็นๆขึ้น นั่นแหละครับ คือทานได้แล้ว เอาขวดหรือเอาแก้วมาใส่ทานได้เลย
- ร้านสะดวกซื้อ : หลายๆคนบอก ต้องไปร้านนั้นร้านนี้ เดินหาที่ถูกๆ คือมันไม่ได้ต่างอะไรกันมากมายขนาดนั้น เจอร้านไหนก็เข้าไปเถอะครับ ร้านที่เข้าบ่อยๆ เพราะเจอบ่อยสุด คือร้าน COOP หลายคนเรียก โคออป / คูป / โคป สะดวกสุดในการตุนเสบียงแล้วครับ สำหรับใครที่เที่ยวแล้วกลับมาจะซื้อของไปกินในห้อง ให้คำนวนเวลาเผื่อไว้นิดนึงนะ เพราะบางที่ปิดเร็วมาก 6โมงเย็น หรือ 6โมงครึ่ง ก็ปิดกันแล้ว
- รถบัสประจำทาง เช็คให้ดีว่ารถที่เราจะขึ้นหมดกี่โมง
- ถุงผ้า นำติดตัวไปด้วย เพราะซุปเปอร์มาเก็ต ไม่มีถุงพลาสติกให้ แต่ถ้าไม่ได้เอาไปเขาก็มีถุงขาย
- รถไฟ : ในหนึ่งขบวนจะมีสองแบบ คือ ชั้น1 และ ชั้น2 สำหรับใครที่ซื้อ SWISS TRAVEL PASS ก่อนซื้อจะมีให้เลือกอยู่แล้วว่าจะซื้อแบบไหน ราคาต่างกันเยอะพอสมควร แต่ส่วนมากแล้วก็ซื้อ ชั้น2 นั่นแหละเพราะราคาถูกกว่า ก่อนขึ้นให้ดูดีๆนะ ขึ้นผิดอาจโดนชาร์จเงินเพิ่ม
- สถานที่ท่องเที่ยวแต่ล่ะที่จะมีทัวร์ลง ใครอยากได้ภาพสวยๆ คนน้อยๆ ต่อแถวไม่นาน แนะนำให้ออกเดินทางแต่เช้า ไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวก่อน 9-10โมง เพราะไม่งั้นทัวร์ แขก ทัวร์จีน มาถึงความวุ่นวายบังเกิด หามุมถ่ายภาพยากแน่นอน
- ห้องน้ำสาธารณะ ตัวอักษรย่อใช้ WC นะครับ ไม่ต้องไปหาคำว่า Toilet
- ร้านอาหารที่สวิตเซอร์แลนด์ ในเมนูอาหารเกือบ 99%ที่เจอ จะไม่มีรูปภาพประกอบ
- ทะเลสาบเออชีเนิน Oeschinensee เวลาที่เหมาะสมกับการถ่ายรูปทะเลสาบสวยๆ คือหลังเที่ยงตรงไปแล้วนะ ไม่งั้นภาพจะย้อนแสง ให้ดีไปถึงแต่เช้า 9โมง-10โมง แล้วให้ไปเล่นเครื่องเล่น Rodelbahn ก่อน เพราะถ้าสายๆเที่ยงๆ แล้ว ทัวร์มา คนจะเยอะ รอคิวนานมาก
เล่นเครื่องเล่นเสร็จ ต้องไปที่ทะเลสาบ Oeschinensee แต่อย่าเดินนะเพราะมันไกลพอสมควรเลย และเมื่อยมากแน่ๆ ให้ยืนรอรถรับส่ง ตรงสถานีที่เราลงกระเช้าตรงนั้นเลย จะเป็นรถสีน้ำเงิน หรือ รถตู้ จ่ายเงินที่คนขับได้เลย รถจะมาทุกครึ่งชั่วโมง เก็บแรงไว้เดินในอีกหลายๆวันที่อยู่ดีกว่า เชื่อผมและชีวิตจะดีขึ้น 555 (ราคาจำไม่ได้)
- น้ำตกไรน์ Rhine Falls อยากถ่ายรูปสวยๆ แนะนำให้ไปหลังเที่ยง เพราะไปถึงเร็ว ถ่ายภาพมาจะย้อนแสง และถ้าอยากได้ภาพมุมบนสวยๆ ลงรถไฟที่สถานี Neuhausen Rheinfall แล้วเดินย้อนทางรถไฟเราวิ่งมา จะเป็นมุมให้ถ่ายภาพ และ เดินลงไปที่น้ำตกได้ อย่าลงไปน้ำตกตรงสถานีรถไฟนะ เพราะจะไม่ได้มุมแบบนี้
- Grindelwald First (กรินเดลวัลด์ เฟียส) ไปแต่เช้าให้ไปเล่นเครื่องเล่น First Flieger กับ First Glider 2อย่างนี้ก่อน แล้วจะไปเดินเล่นที่ ทะเลสาบ Bachalpsee (เดินโคตรเหนื่อยนะเตือนไว้ก่อน) แล้วค่อยมาเดินเล่น First Cliff walk แล้วค่อยปิดท้ายด้วย Mountain Cart แค่นี้ก็หมดวันแล้วครับ อย่างที่บอกเล่นก่อนช่วงสาย/บ่าย ทัวร์มา คนเยอะมากๆ ถึงมากที่สุดๆ
- Jungfraujoch (ยุงเฟรายอค) แนะนำให้ขึ้นทาง Grindelwald (กรินเดลวัลด์) แล้วลงทาง Lauterbrunnen (เลาเทอร์ บรุนเนิน) ขึ้นยุงเฟราให้เช้าที่สุด เท่าที่จะทำได้ถ้าอยากได้ภาพสวยๆ เพราะที่นี่ 100% ทุกทัวร์ต้องมา เต็มที่ไม่เกิน 3-4 ชม.ก็จบแล้ว มาเดินเที่ยวถ่ายรูปต่อที่ Lauterbrunnen (เลาเทอร์ บรุนเนิน)
- Matterhorn แมทเทอร์ฮอร์น ตอนซื้อตั๋วเขาจะถามว่าไปสถานีไหนบ้าง ให้บอกว่าเราจะลง 2 สถานีนะ สถานี Gornergrat คือสถานีสุดท้ายสูงที่สุด อีกสถานีนึงคือสถานี Rotenboden อีกหนึ่งไฮไลท์ในการถ่ายรูปยอดเขา Matterhorn ที่ทะเลสาบ Riffelsee
0. จองตั๋วเครื่องบิน ตามชอบเลยครับ จะบินตรง หรือต่อเครื่อง สวิตเซอร์แลนด์ จะมีสองสนามบิน คือ เจนีวา กับ ซูริค แผนการเดินทางจะเริ่มต้นก็ตรงนี้ ดูว่าเครื่องเราไปลงที่สนามบินไหน
1.วางแผน หาสถานที่เที่ยว เราอยากเดินทางไปที่ไหนบ้าง (เอาที่หลักๆ) ให้บันทึกตำแหน่งทั้งหมดลงใน แผนที่ Google ปักหมุดทั้งหมดให้เรียบร้อย
(เคยรีวิววิธีไว้ในเตรียมตัวเที่ยวญี่ปุ่นแล้วครั้งนึงวิธีเหมือนกัน http://www.tumman.com/2017/03/tokyo.html )
ทริปนี้ผมเลือกใช้ประเป๋า Size24/25นิ้ว เพราะไม่ได้ช๊อปปิ้งอยู่แล้ว
*** การเลือกห้องพัก ดูให้ดี ให้เข้าไปดูในรายละเอียดในห้องพักว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกครบตามความต้องการของเราหรือเปล่า เช่น เป็นห้องน้ำแยก หรือ ห้องน้ำรวม ภายในห้องพักมีกระติกน้ำร้อนให้หรือเปล่า ส่วนแอร์จะมีเป็นบางโรงแรม (ส่วนมากจะไม่มี) อากาศเย็นสบายอยู่แล้ว
: App SBB MOBILE ถ้าอยู่ในไทยแล้วลองเล่นก็อาจจะงงอยู่ เพราะต้องนั่งกรอกตำแหน่งต้นทางและปลายทาง แต่เมื่อไปอยู่ในประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ อะไรๆ จะง่ายขึ้นเพราะบอกตำแหน่งที่เราอยู่ปัจจุบัน แค่คีย์ว่าจะไปไหน จะบอกหมดว่าต้องเดินกี่นาที ลงสถานีไหน มีรอบเวลากี่โมงบ้าง ต่อรถไฟที่ Platform ที่เท่าไหร่ ค่ารถไฟเท่าไหร่
*** เมื่อต้องต่อรถไฟ ก่อนลงรถซัก 2-3นาที ให้เปิด SBB MOBILE เช็ค Platform ที่จะต่อรถไฟทุกครั้ง เพราะอาจมีการเปลี่ยน Platform กระทันหัน และเมื่อลงรถไฟมาให้รีบดูจอที่ Platform ที่เราลง ว่าใช่ Platform นั้นหรือไม่ เพราะบางเที่ยวเราใช้เวลาในการต่อรถ แค่ 3-5นาที และต้องเดินลากกระเป๋าเปลี่ยน Platform มันจะไม่ทันเอา เพราะถ้าเราพลาดเที่ยวรถไฟนั้นๆ อาจจะต้องใช้เวลารอ 30นาที หรือ 1ชั่วโมงเลยนะ
4. วางแผน เริ่มลงรายละเอียด ว่าสถานที่เที่ยวที่เราจะไปนั้นเดินทางท่องเที่ยวยังไง ต้องต่อกระเช้า หรือ รถไฟ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ แถวๆนั้นมีร้านอาหารอะไรบ้าง เปิด/ปิด กี่โมง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็มาจาก Google และ เว็บไซต์ของสถานที่เที่ยวนั้นๆ
5. วางแผนเริ่มจองตั๋ว จากข้อ3 เมื่อเรารู้เส้นทางทั้งหมดแล้ว และใช้ App SBB MOBILE คำนวนค่าโดยสารทั้งหมด ก็จะรู้แล้วครับว่า ค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมด ประมาณเท่าไหร่ เราก็มาตัดสินใจกันว่า จะเช่ารถ จะซื้อพาส หรือ จะไม่ซื้ออะไรเลย ซึ่งในทริปนี้ผมเลือกใช้ SWISS TRAVEL PASS แบบ 15วัน แต่ผมอยู่ใน สวิสเซอร์แลนด์ทั้งหมดแค่ 11วัน แต่ลองคำนวนแล้วก็ยังคุ้มอยู่
สำหรับใครที่เดินทางเยอะ แนะนำให้ซื้อ SWISS TRAVEL PASS เพราะชีวิตจะดีขึ้นเยอะ ขึ้นรถไฟ ขึ้นรถบัส ลงเรือ รถราง เอาง่ายๆคือ มีใบนี้แล้วในสวิสเซอร์แลนด์ คุณจะไม่มีค่าใช้จ่ายเรื่องเดินทางจุกจิกอีกเลย ไม่ต้องมากดซื้อตั๋วทุกสถานี แถมสถานที่ท่องเที่ยว ยังได้เป็นส่วนลด 50% แถมบางที่ก็ขึ้นฟรี อีกด้วย ถ้ามองรวมๆ ลดไปเยอะมากๆ นะครับ คุ้มค่า PASS แน่นอน
6. Internet ซิมการ์ดที่ผมใช้ ผมใช้ Sim to fly ตัวเดียวจบครบไม่มีปัญหา ยอดเขาสูงเกือบ 4,000m สัญญาณ 4g ยังมาเต็ม แนะนำให้ซื้อติดตัวไว้นะ เพราะถ้าใครไปหวังน้ำบ่อหน้า ซื้อ Sim ในประเทศนั้นๆใช้ แล้วเกิดปัญหาเหมือนผม iphone ผมใส่ Sim ต่างประเทศไม่ได้เหมือนมันล็อคสัญญาณไว้จะลำบากเอา จะใช้ Pocket WiFi ก็แพงเกิน Sim to fly ตัวเดียวจบครับ ....
ขอบคุณภาพประกอบจาก AIS
แค่นี้ก็คงพร้อมเดินทางกันแล้วครับ
แต่จะมาบอกเล่า ทริกเล็กๆ ในการใช้ชีวิตในต่างแดน ให้ฟังกันน่าจะเป็นประโยชน์กับนักเดินทางบ้างไม่มากก็น้อย
- SWISS TRAVEL PASS เมื่อซื้อจากไทยไป เอเจนซี่จะบอกคุณว่า ใช้ได้เลยชัวร์ ไปถึงไม่มีปัญหา อย่าไปเชื่อนะ ไปถึงสนามบินให้ไปที่ Shop SBB เพื่อไปประทับตรา และ Activate ก่อนนะครับ และกรอกหมายเลข Passport กับ เซ็นชื่อ ให้เรียบร้อย
- SWISS TRAVEL PASS เมื่อมีแล้ว เดินขึ้นรถไฟ ขึ้นรถบัสได้เลย ไม่ต้องกังวล *ขึ้นรถบัสแค่โชว์ SWISS TRAVEL PASS ให้คนขับดู *ขึ้นรถไฟ จะมีนายตรวจเดินตรวจบัตรโดยสารก็แค่ยื่น SWISS TRAVEL PASS ให้นายตรวจดู (รถไฟบางขบวนไม่มีนายตรวจมาเดิน)
- จุดเสี่ยงที่อาจไม่ปลอดภัย ที่มีพวกผิวดำ หรือ แขกขาว Luzern , Zürich คือสถานีรถไฟหลัก ด้านหลังหรือด้านข้างที่เป็นสถานีรถบัสนะ ถ้าไปก็ระวังๆ เอาไว้ก่อน
- ก่อนเดินทางให้เช็ค วันเปิด/ปิด ด้วยนะ เพราะบางสถานที่ท่องเที่ยวปิดทำการบางฤดู เข้าไปเช็คที่เว็ปไซต์ของสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ
- สถานที่ช๊อปปิ้ง ร้านค้า วันเสาร์จะปิดเร็วมากประมาณ 16.00น. ก็ปิดแล้ว วันอาทิตย์ร้านค้าปิดหมด เปิดอยู่ไม่กี่ร้าน ที่ถามมาเขาบอกวันอาทิตย์ถือเป็นวันครอบครัว
- ร้านค้าเกือบทุกร้าน ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ รับบัตรเครดิตจ่ายแทนเงินสดได้เกือบทั้งหมด
- น้ำดื่ม : ราคาแพงมาก 60-180บาท ถ้าซื้อกินตลอดทั้งทริปไม่ไหวแน่ เมื่อไปถึงหลายคนต้องซื้อน้ำกินอยู่แล้ว กินเสร็จให้เก็บขวดไว้นะครับ แล้วใช้วิธีเติมน้ำเอา ในเมือง และนอกเมือง จะมีเหมือนน้ำพุ เป็นน้ำสาธารณะอยู่แล้ว เติมได้เลยครับ ไม่ต้องอาย เพราะคนที่นี่เขาก็กินกัน และ ดูให้ดีว่า ของคน หรือ ของสัตว์นะ
ปล.น้ำเปล่าที่นี่จะมีสองแบบคือ แบบธรรมดาที่เรากินกัน กับ แบบซ่าคล้ายๆ โซดา ดูให้ดีก่อนซื้อด้วยนะ
- น้ำดื่มจากห้องพัก : ใครไปเที่ยวแล้วงงว่าทำไมในห้องพักไม่มีน้ำดื่มบริการ เพราะที่นี่เขาให้ดื่มน้ำจากก๊อกน้ำในห้องพักได้เลยครับ วิธีคือ เปิดน้ำเย็นจากก๊อก ต้องน้ำเย็นนะครับ น้ำร้อนกินไม่ได้นะ เปิดน้ำทิ้งไว้ประมาณ 30วิ อุณภูมิน้ำจะค่อยๆ เย็นๆขึ้น นั่นแหละครับ คือทานได้แล้ว เอาขวดหรือเอาแก้วมาใส่ทานได้เลย
- ร้านสะดวกซื้อ : หลายๆคนบอก ต้องไปร้านนั้นร้านนี้ เดินหาที่ถูกๆ คือมันไม่ได้ต่างอะไรกันมากมายขนาดนั้น เจอร้านไหนก็เข้าไปเถอะครับ ร้านที่เข้าบ่อยๆ เพราะเจอบ่อยสุด คือร้าน COOP หลายคนเรียก โคออป / คูป / โคป สะดวกสุดในการตุนเสบียงแล้วครับ สำหรับใครที่เที่ยวแล้วกลับมาจะซื้อของไปกินในห้อง ให้คำนวนเวลาเผื่อไว้นิดนึงนะ เพราะบางที่ปิดเร็วมาก 6โมงเย็น หรือ 6โมงครึ่ง ก็ปิดกันแล้ว
- รถบัสประจำทาง เช็คให้ดีว่ารถที่เราจะขึ้นหมดกี่โมง
- ถุงผ้า นำติดตัวไปด้วย เพราะซุปเปอร์มาเก็ต ไม่มีถุงพลาสติกให้ แต่ถ้าไม่ได้เอาไปเขาก็มีถุงขาย
- รถไฟ : ในหนึ่งขบวนจะมีสองแบบ คือ ชั้น1 และ ชั้น2 สำหรับใครที่ซื้อ SWISS TRAVEL PASS ก่อนซื้อจะมีให้เลือกอยู่แล้วว่าจะซื้อแบบไหน ราคาต่างกันเยอะพอสมควร แต่ส่วนมากแล้วก็ซื้อ ชั้น2 นั่นแหละเพราะราคาถูกกว่า ก่อนขึ้นให้ดูดีๆนะ ขึ้นผิดอาจโดนชาร์จเงินเพิ่ม
- สถานที่ท่องเที่ยวแต่ล่ะที่จะมีทัวร์ลง ใครอยากได้ภาพสวยๆ คนน้อยๆ ต่อแถวไม่นาน แนะนำให้ออกเดินทางแต่เช้า ไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวก่อน 9-10โมง เพราะไม่งั้นทัวร์ แขก ทัวร์จีน มาถึงความวุ่นวายบังเกิด หามุมถ่ายภาพยากแน่นอน
- ห้องน้ำสาธารณะ ตัวอักษรย่อใช้ WC นะครับ ไม่ต้องไปหาคำว่า Toilet
- ร้านอาหารที่สวิตเซอร์แลนด์ ในเมนูอาหารเกือบ 99%ที่เจอ จะไม่มีรูปภาพประกอบ
- ทะเลสาบเออชีเนิน Oeschinensee เวลาที่เหมาะสมกับการถ่ายรูปทะเลสาบสวยๆ คือหลังเที่ยงตรงไปแล้วนะ ไม่งั้นภาพจะย้อนแสง ให้ดีไปถึงแต่เช้า 9โมง-10โมง แล้วให้ไปเล่นเครื่องเล่น Rodelbahn ก่อน เพราะถ้าสายๆเที่ยงๆ แล้ว ทัวร์มา คนจะเยอะ รอคิวนานมาก
เล่นเครื่องเล่นเสร็จ ต้องไปที่ทะเลสาบ Oeschinensee แต่อย่าเดินนะเพราะมันไกลพอสมควรเลย และเมื่อยมากแน่ๆ ให้ยืนรอรถรับส่ง ตรงสถานีที่เราลงกระเช้าตรงนั้นเลย จะเป็นรถสีน้ำเงิน หรือ รถตู้ จ่ายเงินที่คนขับได้เลย รถจะมาทุกครึ่งชั่วโมง เก็บแรงไว้เดินในอีกหลายๆวันที่อยู่ดีกว่า เชื่อผมและชีวิตจะดีขึ้น 555 (ราคาจำไม่ได้)
- น้ำตกไรน์ Rhine Falls อยากถ่ายรูปสวยๆ แนะนำให้ไปหลังเที่ยง เพราะไปถึงเร็ว ถ่ายภาพมาจะย้อนแสง และถ้าอยากได้ภาพมุมบนสวยๆ ลงรถไฟที่สถานี Neuhausen Rheinfall แล้วเดินย้อนทางรถไฟเราวิ่งมา จะเป็นมุมให้ถ่ายภาพ และ เดินลงไปที่น้ำตกได้ อย่าลงไปน้ำตกตรงสถานีรถไฟนะ เพราะจะไม่ได้มุมแบบนี้
- Grindelwald First (กรินเดลวัลด์ เฟียส) ไปแต่เช้าให้ไปเล่นเครื่องเล่น First Flieger กับ First Glider 2อย่างนี้ก่อน แล้วจะไปเดินเล่นที่ ทะเลสาบ Bachalpsee (เดินโคตรเหนื่อยนะเตือนไว้ก่อน) แล้วค่อยมาเดินเล่น First Cliff walk แล้วค่อยปิดท้ายด้วย Mountain Cart แค่นี้ก็หมดวันแล้วครับ อย่างที่บอกเล่นก่อนช่วงสาย/บ่าย ทัวร์มา คนเยอะมากๆ ถึงมากที่สุดๆ
First Flieger
First Glider
First Cliff walk
Mountain Cart
- Matterhorn แมทเทอร์ฮอร์น ตอนซื้อตั๋วเขาจะถามว่าไปสถานีไหนบ้าง ให้บอกว่าเราจะลง 2 สถานีนะ สถานี Gornergrat คือสถานีสุดท้ายสูงที่สุด อีกสถานีนึงคือสถานี Rotenboden อีกหนึ่งไฮไลท์ในการถ่ายรูปยอดเขา Matterhorn ที่ทะเลสาบ Riffelsee
สถานี Gornergrat
สถานี Rotenboden , ทะเลสาบ Riffelsee
จบแล้วครับสำหรับ เตรียมตัวเที่ยว สวิตเซอร์แลนด์ ด้วยตัวเอง น่าจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยในการเดินทางเที่ยว สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)
กด Likeเพจ เพื่อติดตามรีวิวข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวได้ที่ https://www.facebook.com/PagesTumman
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น